เมโสแฟต
เมโสแฟต เป็นวิธีสลายไขมันและลดสัดส่วนเฉพาะจุดที่กำลังได้รับความนิยมมากค่ะ เพราะสามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง ใครที่ยังลังเลอยู่ว่าจะฉีดเมโสแฟตดีไหม ? ขอให้มารวมกันตรงนี้เลย
บทความนี้ได้รวบรวม 10 คำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัยมากที่สุดมาฝากกัน ไม่ว่าจะเป็น เมโสแฟต คืออะไร ? มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง ? ฉีดตรงไหนได้บ้าง ? กี่วันเห็นผล ? รวมไปถึงถ้าซื้อยามาฉีดเองจะอันตรายแค่ไหน หาคำตอบได้ที่นี่เลยค่ะ
1. เมโสแฟต คืออะไร ? ต่างจากมินิแฟต, Fat Bomb และ Fat Burn อย่างไร ?
หากต้องการลดไขมันเฉพาะจุด ลดแก้ม ลดเหนียง ลดต้นแขน ฯ หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยิน หรือได้เห็นคำว่า เมโสแฟต ,มินิแฟต, Fat Bomb และ Fat Burn กันมาบ้างใช่ไหมคะ ทั้งหมดคือหัตถการลักษณะเดียวกันค่ะ
เมโสแฟต คือ หัตถการลดสัดส่วนเฉพาะจุดและสลายไขมันส่วนเกิน ด้วยการฉีดตัวยาเข้าไปยังชั้นไขมันโดยตรงค่ะ ตัวยาจะเข้าไปกระตุ้นให้เซลล์ไขมันแตกตัว หรือสลายตัว จากนั้นจะขับออกจากร่างกายผลกลไกการขับของเสียตามธรรมชาติ เช่น เหงื่อ ปัสสาวะและอุจจาระ ทำให้ไขมันบริเวณที่ฉีดตัวยาเมโสแฟตลดลง สัดส่วนลดลง และผิวดูกระชับมากขึ้นนั่นเอง
ส่วนคำว่า มินิแฟต (Mini Fat), Fat Bomb,Fat Burn หรือ โปรแกรมสลายไขมันส่วนเกินหรือลดสัดส่วนอื่น ๆ เป็นการตั้งชื่อเรียกเพื่อการค้าค่ะ ส่วนใหญ่ชื่อเหล่านี้คลินิกความงามจะตั้งขึ้นเพื่อทำการโฆษณามากกว่าค่ะ แต่วิธีการทำหัตถการจะเป็นการฉีดตัวยาสลายไขมันเข้าสู่ชั้นไขมันโดยตรงเช่นเดียวกับเมโสแฟต แต่อาจจะต่างกันที่ยี่ห้อ ซึ่งตัวยาเมโสแฟตที่นำมาใช้ในคลินิกเสริมความงาม มีหลายยี่ห้อให้เลือก โดยมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน หรือเหมาะกับตำแหน่งที่ต่างกันค่ะ
2. เมโสแฟต อันตรายไหม ?
ตัวยาเมโสแฟตถ้าใช่อย่างเหมาะสม เป็นยาแท้ที่ได้มาตรฐาน ไม่เป็นอันตรายค่ะ เพราะตัวยาใช้สารสกัดจากธรรมชาติ จึงสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ และช่วยสลายไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดได้อย่างเห็นผล
แต่ถ้าตัวยาที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน ยาปลอม ยาหิ้ว ที่มีแหล่งที่มาไม่ชัดเจน กรณีนี้อันตรายมากค่ะ ซึ่งเป็นไปตามที่ อย.ออกมาเตือนเลยค่ะ
จากข้อมูลที่ทางอย.ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับอันตรายจากการฉีดเมโสแฟต นั่นเกิดจากการใช้ยาเมโสแฟตปลอม หรือการใช้ยาผิดวัตถุประสงค์ค่ะ ส่วนใหญ่มักจะมี 2 ส่วนผสมนี้
สเตียรอยด์
สารตัวนี้จริง ๆ แล้วไม่ได้เป็นอันตรายค่ะ หากใช้อย่างถูกวิธี เพราะเป็นตัวยาที่แพทย์ผิวหนังนำมาใช้เพื่อรักษาโรคผิวหนัง ซึ่งมักจะใช้ในปริมาณน้อย เพื่อฉีดรักษาสิวหรือแผลคีลอยด์
แต่ถ้าใช้ปริมาณมาก ๆ จะทำให้เนื้อยุบลง พ่อค้าแม่ค้าหัวใสที่ไร้จรรยาบรรณจึงอาศัยผลข้างเคียงนี้ปลอมตัวยาเมโสแฟตขึ้นมา ด้วยการใช้สารสเตียรอยด์แทน เพราะต้นทุนต่ำ และเห็นผลไว แต่เป็นเนื้อยุบค่ะ ไม่ใช่ไขมัน ถ้าฉีดแก้ม ฉีดเหนียงก็จะเห็นว่าหน้าเล็กลงเร็ว แต่ผลข้างเคียงระยะยาวมาเต็มมากกว่าค่ะ เสี่ยงต่อปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมา ทั้งอักเสบ ติดเชื้อง่าย เพราะตัวยากดภูมิคุ้มกันร่างกายของเราไว้
ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase)
หรือที่หลาย ๆ คนอาจจะรู้จักกันในชื่อยาสลายฟิลเลอร์ค่ะ เป็นตัวยาอีกชนิดที่มีความปลอดภัย สามารถใช้ฉีดสลายฟิลเลอร์ที่เป็นก้อนหรืออุดตันได้
แต่ถ้าคลินิกไร้จรรยาบรรณ นำมาใช้ฉีดผิดวัตถุประสงค์ เพราะเห็นว่าราคาถูก ต้นทุนต่ำ ทำกำไรได้มาก โดยฉีดในปริมาณมาก ๆ เพื่อทำให้คอลลาเจนสลายไป เนื้อยุบลงเร็ว ที่ดูคล้ายจะเห็นผลลัพธ์ดี คนไข้ไม่รู้ก็อาจจะรู้สึกชอบค่ะ แต่มีผลเสียระยะยาวแน่นอน เพราะถ้าคอลลาเจนเราหาย นั่นหมายความว่าผิวเราจะเหี่ยวเร็ว แก่เร็ว เกิดปัญหาริ้วรอยก่อนวัย และผิวหย่อนคล้อยได้เร็ว
หากใครอยากฉีดเมโสแฟตแล้วได้ผลลัพธ์ดี สามารถสลายไขมันได้อย่างปลอดภัย แนะนำให้ดูยี่ห้อและส่วนผสมของเมโสแฟตที่จะฉีดก่อนค่ะ แต่ถ้าไม่รู้ว่าจะตรวจสอบอย่างไร ให้เลือกฉีดกับคลินิกที่มีความน่าเชื่อ ได้มาตรฐานเปิดให้บริการอย่างถูกต้องเป็นหลัก และผู้ฉีดต้องเป็นแพทย์เท่านั้นค่ะ
3. เมโสแฟต มีข้อดี-ข้อเสียอะไร ?
อีกหนึ่งคำถามที่หลาย ๆ คนอยากรู้ก่อนตัดสินใจฉีดเมโสแฟตเลยค่ะ สำหรับข้อดี-ข้อเสียของการฉีดเมโสแฟต มีดังนี้
ข้อดีของเมโสแฟต
สามารถสลายไขมันส่วนเกิน และลดสัดส่วนได้ โดยเฉพาะในจุดที่ลดยาก แม้จะพยายามออกกำลังกายและการคุมอาหารแล้ว แต่ก็ไม่ค่อยเห็นผล เช่น บริเวณเหนียง แก้มหรือต้นขาด้านใน
การฉีดเมโสแฟตเป็นหัตถการที่ราคาไม่สูง แต่ให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า ใช้เวลาในการฉีดไม่นาน ไม่ต้องเตรียมตัวมาก และการดูแลตัวเองหลังฉีดก็ไม่ยุ่งยาก เพราะไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล จึงไม่เสียเวลาพักฟื้น หลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติค่ะ
ข้อเสียของเมโสแฟต
ในเคสที่มีไขมันสะสมในปริมาณมาก ๆ จำเป็นต้องฉีด 4-5 ครั้ง เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนค่ะ แนะนำให้ประเมินกับแพทย์ก่อน ว่าจุดที่ต้องการลดเหมาะกับการฉีดเมโสแฟตหรือไม่
4. ฉีดเมโสแฟต เจ็บไหม ?
การฉีดเมโสแฟตจะรู้สึกเจ็บหรือแสบเล็กน้อยในตอนที่ลงเข็มและเดินยาค่ะ แต่เป็นอาการเจ็บที่ทนได้ค่ะ และในขั้นตอนการฉีดจะมีการประคบน้ำแข็งช่วยบรรเทาอาการให้ หรือใครที่กลัวเจ็บมาก ๆ แค่เห็นเข็มก็อยากเป็นลมแล้ว สามารถแจ้งให้คลินิกแปะยาชาก่อนได้ จึงไม่ต้องกังวลใจค่ะ
5. เมโสแฟต ฉีดตรงไหนได้บ้าง ?
เมโสแฟตสามารถใช้ฉีดลดไขมันส่วนเกินได้หลายบริเวณทั้งใบหน้าและลำตัวค่ะ ซึ่งจะนิยมมากในจุดที่มีการสะสมไขมัน แต่ลดได้ยากแม้จะออกกำลังกายหรือคุมอาหารแล้ว เช่น
- เมโสแฟตแก้ม ได้รับความนิยมมากที่สุด ช่วยปรับหน้าให้ดูเรียว และมีมิติ แก้ปัญหาหน้าอ้วนจากการมีไขมันที่แก้มมากเกินไป
- เมโสแฟตเหนียง ช่วยลดไขมันใต้คางหรือเหนียงลงได้ ทำให้ใบหน้าเรียว วีเชฟมากขึ้น
- เมโสแฟตลดไขมันใต้รักแร้หรือปีกหลัง เป็นอีกจุดที่สาว ๆ นิยมมากค่ะ เพื่อแก้ปัญหาก้อนไขมันปลิ้นเวลาใส่บราหรือชุดว่ายน้ำ
- เมโสแฟตแขน ช่วยแก้ปัญหาแขนใหญ่ที่เกิดจากการสะสมไขมัน ช่วยปรับให้แขนเล็กและเรียวสวย ทำให้ใส่เสื้อแขนกุดหรือสายเดี่ยวได้โดยไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป
- เมโสแฟตต้นขา เป็นจุดที่มักมีไขมันสะสมแต่ลดสัดส่วนได้ยาก สามารถทำได้ทั้งบริเวณต้นขาด้านในและด้านนอกค่ะ การฉีดเมโสแฟตจะทำให้ขาดูเรียวสวยมากขึ้น
- เมโสแฟตท้องและสะโพก ช่วยลดไขมันหน้าท้อง และสะโพกใหญ่ เป็นจุดที่ใช้ปริมาณตัวยาค่อนข้างมาก และฉีดหลายครั้ง
6. ฉีดเมโสแฟต ใช้กี่ CC ?
การฉีดเมโสแฟตให้เห็นผล ต้องใช้ปริมาณตัวยาให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่ฉีดและปริมาณไขมันเดิมค่ะ ซึ่งแต่ละคนจะใช้ปริมาณ CC แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการประเมินของคุณหมอ โดยปริมาณโดยเฉลี่ยแต่ละจุด คือ
- เมโสแฟตแก้ม เคสทั่วไปที่ไขมันแก้มไม่มาก หรือมีแก้มป่องเล็กน้อย ใช้ข้างละ 3 CC ขึ้นไป (6 CC ขึ้นไปต่อครั้ง) ก็เพียงพอแล้วค่ะ แต่ถ้าไขมันแก้มค่อนข้างมาก จะใช้ปริมาณยามากขึ้นตามไปด้วย สามารถทยอยฉีดได้ค่ะ
- เมโสแฟตต้นแขน ข้างละ 20-40 CC
- เมโสแฟตต้นขา ข้างละ 40 CC
- เมโสแฟตหน้าท้อง/สะโพก 40-80 CC
7. ฉีดเมโสแฟต กี่ครั้งเห็นผล ?
การฉีดเมโสแฟต สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกค่ะ แม้แต่ละคนจะมีปริมาณไขมันส่วนเกินแตกต่างกัน แต่ถ้าฉีดกับคุณหมอประสบการณ์สูง ที่ประเมินปริมาณยาได้เหมาะสมในการฉีดต่อครั้งได้ค่ะ ทำให้เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด ไขมันบริเวณที่ฉีดจะลดลงไปประมาณ 10-15% โดยบริเวณที่ฉีดเริ่มยุบลง หากยังไม่พอใจ สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ โดยเฉพาะเคสที่มีไขมันมาก อาจฉีด 4-5 ครั้ง
8. ฉีดเมโสแฟต กี่วันเห็นผล ?
หลังฉีดเมโสแฟต สามารถเห็นผลว่าไขมันเริ่มยุบลงได้ในช่วง5-7 วัน หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่ค่ะ
9. เมโสแฟต อยู่ได้นานแค่ไหน ?
หลังฉีดเมโสแฟตจะอยู่ได้ 2-3 เดือนค่ะ แต่ก็ขึ้นอยู่การดูแลตัวเองของแต่ละคนร่วมด้วย เพราะเมโสแฟตช่วยลดปริมาณไขมันเฉพาะที่ แต่ไม่ได้ป้องกันการสะสมไขมันใหม่ ๆ หากอยากให้เห็นผลเต็มที่ และคงผลลัพธ์ได้นานยิ่งขึ้น จำเป็นต้องออกกำลังกายและควบคุมอาหารร่วมด้วย เพื่อลดการสะสมไขมันใหม่ค่ะ
10. ซื้อเมโสแฟต มาฉีดเองได้ไหม ?
ห้ามทำแบบนั้นค่ะ เพราะการซื้อตัวยาเมโสแฟตในอินเทอร์เน็ตจะเสี่ยงได้ตัวยาที่เป็นของปลอม มีสารอันตราย หรือยาหิ้วที่เก็บรักษาและขนย้ายไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ตัวยาเสื่อมสภาพ และก่อให้เกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ได้
นอกจากนี้การฉีดเมโสแฟตเองหรือฉีดกับหมอกระเป๋า สภาพแวดล้อมในการทำหัตถการจะไม่ได้มาตรฐานสาธารณสุขเหมือนกับทำภายในคลินิกที่มีอนุญาตถูกต้อง ทำให้เสี่ยงต่อการปนเปื้อนและติดเชื้อได้ รวมถึงยังขาดเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง และความเข้าใจกายวิภาค การซื้อเมโสแฟต มาฉีดเองจึงมีความอันตรายมากค่ะ
สรุปเรื่องการฉีดเมโสแฟต
จากคำตอบของ 10 ข้อสงสัย จะเห็นว่าการฉีดเมโสแฟตเป็นวิธีสลายไขมันส่วนเกินที่ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด แต่ทุกอย่างต้องมาพร้อมกับความปลอดภัย โดยจำเป็นต้องฉีดเมโสแฟตด้วยตัวยาแท้ ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และฉีดภายใต้คลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้นค่ะ