หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นช่วงเวลาที่ต้องให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด การฉีด Filler ใต้ตาช่วยลดร่องลึกและริ้วรอย ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ในบทความนี้ Thaibestbeauty จะมาแนะนำอาการที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รวมถึงข้อห้ามและข้อปฏิบัติที่ควรรู้ ตั้งแต่ทันทีหลังฉีด ช่วง 1-2 วันแรก 1-2 สัปดาห์ และ 1 เดือนหลังฉีด รวมถึงตอบคำถามที่พบบ่อยหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
คลิกอ่านหัวข้อ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
อาการหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่อาจเจอ
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาด้วย Hyaluronic Acid เป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาลึก คล้ำ ถุงใต้ตา และริ้วรอย ทำให้ใต้ตาดูสดใส เรียบเนียน ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังการฉีดฟิลเลอร์อาจมีอาการข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นในช่วงแรกได้ตามปกติ เช่น
- อาการบวมเล็กน้อยบริเวณใต้ตา
- รอยช้ำสีเขียวหรือสีแดงบริเวณใต้ตา
- อาการคันเล็กน้อยบริเวณใต้ตา
หากพบอาการเหล่านี้ไม่ต้องกังวล จะค่อย ๆ ดีขึ้นเองภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่หากหลังจากช่วงเวลานี้แล้ว อาการบวมยังไม่หาย และพบผลข้างเคียงที่ผิดปกติ เช่น
- ปวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มากกว่าปกติ
- บวมมากขึ้นเรื่อย ๆ และกดเจ็บบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- แดงหรือคล้ำผิดปกติบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- รู้สึกร้อนบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เมื่อใช้หลังมือแตะดูคล้ายวิธีวัดไข้
ควรระวัง เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณของการอักเสบหรือติดเชื้อ ซึ่งปัญหานี้ส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้วที่ไม่มีคุณภาพ ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที
โดยในหัวข้อถัดไป เราจะแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างละเอียด เพื่อช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ลดอาการข้างเคียง และได้ผลลัพธ์ที่สวยงามอย่างชัดเจน
ข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler ใต้ตา มีอะไรบ้าง ?
การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน
ดังนั้น เพื่อให้คุณสามารถดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย ช่วยให้ผิวใต้ตาฟื้นตัวเร็วขึ้น และเห็นผลลัพธ์ที่สวยงามชัดเจนหลังทำ มาดูกันว่าใน 1 เดือน ระหว่างรอฟิลเลอร์เข้าที่ มีข้อปฏิบัติอะไรบ้างที่ควรทำหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาทันที
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส เกา หรือกดนวดบริเวณที่ฉีด
- สังเกตอาการบวม แดง เขียวช้ำ หรือคัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
- แกะพลาสเตอร์ได้หลังผ่านไป 1 ชั่วโมง
- ทานยาฆ่าเชื้อและยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง
หลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาทันที การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดอาการบวมแดง การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดูดี มีความปลอดภัย
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วง 1-2 วัน
- อยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด
- งดกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น ออกกำลังกายหนัก ซาวน่า
- ล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ ได้ แต่ไม่ควรแช่น้ำนานเกิน 15 นาที
- หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหน้า พยายามนอนหงาย เพื่อป้องกันการกดทับหน้า
- สังเกตอาการ หากรู้สึกว่าอาการบวมแย่ลงให้ติดต่อคลินิก
ใน 1-2 วันแรกหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะเป็นช่วงที่ฟิลเลอร์กำลังเริ่มเซตตัว การปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด จะช่วยลดอาการบวม อักเสบ ป้องกันการติดเชื้อ ลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วง 1-2 สัปดาห์
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์ที่เป็นสารอุ้มน้ำฟูสวย
- อาการบวม เขียวช้ำ จะค่อย ๆ จางหายไป
- ระวังการขยับใบหน้าเยอะ
- สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
- ยังควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือกดแรง ๆ บริเวณที่ฉีด
ใน 1-2 สัปดาห์หลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะเป็นช่วงที่อาการต่าง ๆ เริ่มดีขึ้น การดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ผลลัพธ์ของการฉีดดูเป็นธรรมชาติ ลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหา และช่วยให้ฟิลเลอร์เซตตัวได้ดี
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วง 1 เดือน
- งดการทำทรีตเมนท์หรือเลเซอร์ที่ลงลึกถึงผิวชั้นใน
- ดื่มน้ำ 1.5-2 ลิตรต่อวันอย่างสม่ำเสมอ
- สามารถออกกำลังกายและทำกิจกรรมได้ตามปกติ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนสูงเป็นเวลานาน
- สังเกตผลลัพธ์ หากไม่พอใจสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อปรับแต่งเพิ่มเติม
ใน 1 เดือนหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะเป็นช่วงที่ฟิลเลอร์เซตตัวเรียบร้อยแล้ว แต่ยังควรระวังการทำทรีตเมนท์ที่อาจส่งผลกระทบต่อฟิลเลอร์ที่ฉีดมา และการดื่มน้ำยังคงสำคัญเพื่อรักษาฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นาน
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีอะไรบ้าง ?
หลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีข้อห้ามที่ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันปัญหาและรักษาผลลัพธ์ให้ดูดีและปลอดภัย ดังนี้
- ห้ามนวดหรือกดบริเวณที่ฉีดแรง ๆ
- ห้ามอาบน้ำร้อนหรือแช่น้ำร้อนในวันที่ฉีด
- ห้ามออกกำลังกายหนัก ๆ 1-2 วันแรก
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสอากาศร้อน ๆ
- ควรงดสูบบุหรี่ เพราะทำให้ยุบบวมช้า
- ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด
ถาม-ตอบ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลายคนอาจจะยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพิ่มเติม ในหัวข้อนี้ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยและคำตอบที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาให้แล้ว
Q : หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เห็นผลตอนไหน ?
คำตอบ : โดยทั่วไปหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที และจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ ผิวบริเวณใต้ตาจะดูอิ่มฟู เรียบเนียน ทำให้ใบหน้าดูสดใส มีความอ่อนเยาว์มากขึ้น
Q : หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรหลีกเลี่ยงอาหารแบบไหน ?
คำตอบ : หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรเลี่ยงการรับประทานอาหารเหล่านี้ในช่วง 14 วันแรก
✖ อาหารรสจัด โดยเฉพาะอาหารเผ็ดจัดที่อาจทำให้หน้าแดง
✖ อาหารที่มีเกลือหรือโซเดียมสูง รวมถึงอาหารสำเร็จรูปบางชนิด
✖ อาหารดิบและอาหารหมักดอง
✖ อาหารที่ต้องรับประทานใกล้ความร้อน เช่น การนั่งหน้าเตา
Q : หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดซ้ำได้หรือไม่ ต้องรอนานไหม ?
คำตอบ : การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาซ้ำสามารถทำได้ แต่ควรรอให้เห็นผลลัพธ์จากการฉีดครั้งแรกอย่างชัดเจนก่อน โดยทั่วไป แพทย์จะแนะนำให้รออย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ ก่อนพิจารณาฉีดเพิ่มเติม
Q : หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีอาการบวม ผิดปกติไหม หายเองได้หรือไม่ ?
คำตอบ : อาการบวมเป็นเรื่องปกติหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ส่วนใหญ่จะค่อย ๆ หายเองภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่หากบวมมากหรือนานกว่านี้ควรปรึกษาแพทย์
คลิกอ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ? 4 สิ่งที่ต้องเช็ก เพื่อผลลัพธ์ที่ปัง ไม่ต้องตามแก้ให้วุ่น
Q : แต่งหน้าหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้ไหม ?
คำตอบ : หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรงดแต่งหน้าในวันที่ฉีด 24 ชั่วโมงแรก หรือหากจำเป็นต้องแต่งหน้าจริง ๆ ให้เว้นบริเวณรูเข็มที่ฉีด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและระคายเคือง
หลังจากนั้น สามารถแต่งหน้าได้ แต่ควรใช้ผลิตภัณฑ์อ่อนโยน ทำความสะอาดอุปกรณ์แต่งหน้าให้ดี หลีกเลี่ยงการกดหรือถูแรงบริเวณที่ฉีด ที่สำคัญคือต้องล้างเครื่องสำอางออกอย่างเบามือ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากพบอาการผิดปกติใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
สรุปเรื่องหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีจะส่งผลโดยตรงต่อความสวยงามและความปลอดภัย ควรระมัดระวังไม่สัมผัสหรือกดบริเวณที่ฉีด หลีกเลี่ยงความร้อนและอาหารรสจัดในช่วงแรก รวมถึงดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูสวย และเข้าที่เร็ว
นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญคือ ควรทำตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัด จะช่วยให้ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน ส่งผลให้ได้รับทั้งความสวยพร้อมความมั่นใจ