แพ้ครีมกันแดด
การแพ้ครีมกันแดด ทาแล้วผื่นขึ้น สิวขึ้น เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนค่ะ ไม่ใช่เฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบางเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะเป็นอาการที่ทำให้เราต้องกลับมาดูแลผิวและบำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง
แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าหน้าแพ้ครีมกันแดด หรือสารกันแดดตัวไหน เป็นอันตรายไหม ใช้เวลารักษานานหรือไม่ และควรเลือกใช้กันแดดแบบไหน เพื่อป้องกันหน้าแพ้กันแดด ในบทความนี้ Thaibestbeauty สรุปมาให้แล้วค่ะ
คลิกอ่านหัวข้อ แพ้ครีมกันแดด
สาเหตุ แพ้ครีมกันแดด เกิดจากอะไร ?
สาเหตุที่ทำให้เกิดการแพ้ครีมกันแดด สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุค่ะ แต่ส่วนใหญ่มักเกิดจากการแพ้สารเคมีที่ผสมลงไปในครีมกันแดดทาหน้า ดังนี้
- สาร PABA เป็นสารที่นิยมใส่ในครีมกันแดดสมัยก่อน ทำให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคืองต่อผิวได้ง่าย ทำให้เกิดสิวได้ง่าย และอาจทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่ทำร้ายผิวเมื่อเจอกับแสงแดด
- Oxybenzone เมื่อใช้ในปริมาณมากหรือเข้มข้นสูงเกินไป อาจทำให้เกิดการแพ้ ระคายเคืองต่อผิว และยังส่งผลข้างเคียงต่อการยับยั้งฮอร์โมนบางชนิดในร่างกาย
- Octocrylene มีหน้าที่ดูดซับรังสี UV และผลิตอนุมูลออกซิเจนที่อาจทำลายเซลล์ผิว หากผิวหนังดูดซับมากเกินไป อาจทำให้เกิดการแพ้ขึ้นบนใบหน้า และยังเป็นสารอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
- Octyl Methoxycinnamate มีประสิทธิภาพป้องกันรังสี UVB แต่เมื่อใช้ไปนาน ๆ อาจเกิดภาวะการดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด เป็นอันตรายต่อตับ เด็กและสตรีมีครรภ์
- Salicylate เป็นสารที่กันรังสี UV ได้ดี แต่ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารตัวนี้ก็ยังมีโอกาสที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ค่ะ เนื่องจากลักษณะโครงสร้างของสาร ทำให้สารบางส่วนซึมเข้าผ่านชั้นผิวหนังและเกิดการแพ้
แพ้ครีมกันแดด อันตรายหรือไม่ ?
สำหรับอาการแพ้ครีมกันแดดสิวขึ้น ผื่นขึ้น ตึงผิว แสบร้อน โดยทั่วไปแล้วอาการเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายค่ะ
แต่หากเกิดการแพ้ครีมกันแดดในระดับที่รุนแรง เช่น อาเจียน ผื่นลามทั่วตัว หายใจติดขัด ให้รีบเข้าพบแพทย์ เพื่อรักษา เพราะอาการเหล่านี้อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
สัญญาณเตือนที่บอกว่ามีอาการแพ้ครีมกันแดด
1.ใช้แล้วสิวขึ้นทันที
ถ้าปกติไม่เคยมีปัญหาสิว แต่เมื่อเปลี่ยนครีมกันแดดแล้วสิวขึ้นทันที เกิดอาการอักเสบ เห่อ แสดงว่าหน้าของเราแพ้ครีมกันแดด หรือส่วนผสมบางตัวที่ผสมอยู่ในครีมค่ะ
ซึ่งสารพวกนี้จะกระตุ้นทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง และเกิดอาการแพ้ตามมาในที่สุด
2.ผื่นขึ้นเป็นปื้น
หากใช้กันแดดแล้วผื่นขึ้นเป็นปื้น ผิวหนังบวมแดง มีตุ่มลักษณะคล้ายกับลมพิษ และมีอาการคัน แสบร้อนร่วมด้วย อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นทันทีหลังจากทากันแดด มีสาเหตุมาจากการแพ้พาราเบน หรือน้ำหอม ในครีมกันแดด
เมื่อพบว่าแพ้ครีมกันแดดผื่นขึ้นต้องล้างออกทันที เพื่อป้องกันการลุกลามค่ะ
3.แสบและคันผิว
สำหรับอาการแสบผิว คันผิว ผิวเปลี่ยนเป็นสีแดง หลังจากทาครีมกันแดด สามารถเกิดได้จากหลาย ๆ ปัจจัย
เช่น แพ้ส่วนผสมบางตัว ทำให้ผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อเจอกับครีมกันแดดที่แรงเกินไป จึงทำให้เกิดปัญหาหน้าแพ้ครีมกันแดดได้
4.ผิวลอกผิดปกติ
หน้าลอกเป็นขุย แห้งกร้าน ผิวแตก เป็นอีกหนึ่งในอาการแพ้ครีมกันแดด มีอาการแสบ ๆ คัน ๆ บนผิวร่วมด้วย เกิดขึ้นจากการใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสารที่ดึงความชุ่มชื้นออกจากผิว จนทำให้ผิวหน้าขาดน้ำและผิวลอกในที่สุด
5.ผิวไวต่อแสง
สำหรับอาการแพ้ครีมกันแดดในบางราย อาการแพ้ไม่ได้แสดงให้เห็นแบบชัดเจนมากนัก แต่จะแสดงออกมาเมื่อโดนแสงแดด ผิวแดง ระคายเคือง รู้สึกแสบร้อนเร็วกว่าปกติ ทำให้ผิวไหม้แดด เกิดฝ้าแดด รอยดำได้ง่ายมาก ๆ ทั้งยังทำให้ใบหน้าหมองคล้ำ
ซึ่งมักเกิดจากการแพ้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของน้ำหอม และสารเคมีที่ออกฤทธิ์เป็นกรด จนทำให้ผิวบอบบางและไวต่อแสงมากขึ้น
6.ตุ่มขาว ตุ่มแดงขนาดเล็กขึ้นบริเวณที่ใช้ทา
การแพ้ครีมกันแดด อาจไม่ได้มีแค่สิวขึ้นหรือสิวเห่อเสมอไปค่ะ แต่อาจมีตุ่มขาวหรือตุ่มแดงขนาดเล็กขึ้นในตำแหน่งที่ทา
เนื่องจากครีมกันแดดที่ใช้มีส่วนผสมของสารให้ความนุ่มลื่น หรือ Mireral Oil ในปริมาณที่มากเกินไป ทำให้สิวหน้าเกิดการอุดตันในรูขุมขน จนเกิดเป็นตุ่มแดง ๆ หรือตุ่มขาวขนาดเล็กบนใบหน้า
7.ผิวตึง ร้อน
หลังจากที่ทากันแดดแล้วรู้สึกร้อน ผิวตึง แม้ไม่ได้โดนแดด ในบางเคสผิวอาจเปลี่ยนเป็นสีแดง หรือมีอาการคันร่วมด้วยค่ะ
หากพบเจออาการแบบแพ้ แสดงว่าแพ้ครีมกันแดด ที่เกิดจากสารเคมีบางชนิดที่ผสมอยู่ เช่น สารกันบูด น้ำหอม หรือสารเคมีในครีมกันแดดแรงมากเกินไป
ข้อควรปฏิบัติเมื่อแพ้ครีมกันแดด
เมื่อพบว่าแพ้ครีมกันแดด ต้องปฐมพยาบาลการรักษาเบื้องต้น ซึ่งมีแนวทางคล้าย ๆ กับโรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง ดังนี้
- หยุดใช้ครีมกันแดดทันทีที่รู้สึกใช้แล้วผื่นขึ้น สิวขึ้น แสบร้อน หากหยุดใช้แล้วอาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้ไปพบแพทย์
- ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำเกลือ เพื่อป้องกันการลุกลามของอาการแพ้ในเบื้องต้น ควรเลือกน้ำเปล่าอุณหภูมิห้อง หรือน้ำเกลือ ที่มีค่า pH เป็นกลาง
- ห้ามจับ แกะ หรือเกา เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคือง และเชื้อโรคเข้าสู่ผิวได้จากรอยแผล
- หยุดสครับผิว พอกหน้า หรือมาสก์หน้า เพราะสามารถทำให้ชั้นผิวบางลง จนทำให้เกิดผิวแห้ง ลอก และเกิดการระคายเคืองได้มากขึ้น
- ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เช่น โลชันคาลาไมล์ เจลว่านหางจระเข้ หรือปิโตรเลียมเจลลี
- กินอาหารหรือใช้ครีมที่มีโพรไบโอติก เพิ่มภูมิคุ้มกัน ปกป้องผิวจากมลภาวะ ช่วยลดการอักแสบ เช่น โยเกิร์ต ดาร์กช็อกโกแลต คอมบูชา
- ใช้ยารักษาอาการแพ้ ที่มีส่วนผสมของสารไฮโดรคอร์ติโซน แต่ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือเภสัชกรก่อนใช้ยา
ควรใช้ครีมกันแดดแบบไหน เพื่อป้องกันการแพ้ครีมกันแดด
ควรหลีกเลี่ยงครีมที่มีสารกระตุ้นภูมิแพ้ หรือสารที่ก่อให้เกิดความระคายเคือง รวมถึงมีการทดสอบการแพ้ครีมกันแดดก่อนใช้ ซึ่งควรใช้ครีมกันแดด ป้องกันการแพ้ ดังนี้
- ครีมกันแดดแบบ Physical Sunscreen เพราะมีสารเคมีน้อยกว่าแบบ Chemical Sunscreen
- กันแดดแบบ Hybrid Sunscreen ทาแล้วหน้าไม่มัน ไม่ทิ้งคราบขาว ไม่หนักหนา ผสานจุดเด่นของ Physical และ Chemical เข้าด้วยกัน
- หลีกเลี่ยงกันแดดที่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว เช่น ซิลิโคน น้ำหอม พาราเบน น้ำมันหอมระเหย แอลกอฮอล์
- สำหรับผิวแพ้ง่ายแนะนำให้เลือกค่า SPF ไม่เกิน 50
ถ้าแพ้ครีมกันแดดทุกชนิด ควรทำอย่างไร ?
หากแพ้ครีมกันแดดทุกชนิด แนะนำให้ใช้เครื่องสำอาง และสกินแคร์อื่น ๆ ที่มีส่วนผสมของสารกันแดด ไม่ว่าจะเป็นโลชัน เดย์ครีม รองพื้น รวมกับการป้องกันผิวจากรังสี UV วิธีอื่น ๆ เพื่อลดโอกาสเกิดผิวไหม้แดด และปัญหาฝ้า กระแดด
เช่น สวมเสื้อผ้าให้มือชิด ใช้ร่มกัน UV เพียงเท่านี้คนที่แพ้กันแดดทุกยี่ห้อ ทุกชนิด ก็จะสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้แบบเต็มที่แล้ว
แพ้ครีมกันแดด กี่วันหาย รักษานานไหม ?
แพ้ครีมกันแดด กี่วันหาย ? ระยะเวลาที่ผิวจะหายเป็นปกติ ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการค่ะ
ถ้าแพ้กันแดดแล้วมีสิวขึ้น ผื่นขึ้น จากส่วนผสมที่ทำให้เกิดการระคายเคือง ก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น หลังจากหยุดใช้ครีมกันแดดภายใน 2-4 สัปดาห์ โดยในระหว่างรักษาผิว ให้หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง จนกว่าจะหายสนิท
แต่หากมีอาการแพ้ครีมกันแดดรุนแรง หรือหลังจากสัปดาห์ที่ 3 อาการแพ้กันแดดยังไม่ดีขึ้น หรือหนักขึ้นกว่าเดิม ให้รีบพบแพทย์อย่างเร็วที่สุดค่ะ
แพ้ครีมกันแดด ควรพบแพทย์หรือไม่ ?
สำหรับคนที่มีอาการแพ้ครีมกันแดดทาหน้า แพ้ครีมกันแดดทาตัว ในระดับที่รุนแรง เช่น อาเจียน คลื่นไส้ หายใจลำบาก ติดขัด หรือมีผื่นขึ้นตามผิวหลังจากใช้ครีมกันแดด ให้รีบเข้าพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อวินิจฉัย เพราะการแพ้กันแดดในระดับที่รุนแรงอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
แต่ในกรณีที่แพ้ครีมกันแดดทั่วไป ไม่รุนแรง ให้นำครีมกันแดดดังกล่าวไปให้แพทย์ดูส่วนผสมและทำการทดสอบหาสารที่แพ้ เพื่อหาแนวทางในการเลือกกันแดดที่เหมาะสมกับตัวเอง
สรุปเรื่องผิวแพ้ครีมกันแดด
จะเห็นได้ว่าทุกคนมีโอกาสแพ้ครีมกันแดดได้ค่ะ เราจึงควรทดสอบก่อนใช้ โดยทาครีมกันแดดเล็กน้อยที่บริเวณหลังใบหูหรือข้อพับแขน และสังเกตอาการ หากพบว่ามีผื่นแดง คัน หรือแสบร้อน รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาด นั้นก็แสดงว่าเราแพ้กันแดดตัวนั้น ให้หยุดใช้ทันที พร้อมกับมองหากันแดดยี่ห้ออื่น ๆ แทน