ไฮยาลูรอน

ไฮยาลูรอน เหมาะกับใคร ? อยากบูสผิวฉ่ำวาวแบบเร่งด่วน ใช้ยังไง ?

ไฮยาลูรอน

ไฮยาลูรอน

สำหรับใครที่ดูแลตัวเองเป็นประจำ คงจะคุ้นหูกับสารไฮยาลูรอนกันมาบ้าง เพราะมักพบเจอในผลิตภัณฑ์ความงามต่าง ๆ เช่น สกินแคร์ ยาสระผม หรืออายครีม รวมถึงหัตถการในคลินิกความงาม เช่น ฟิลเลอร์ และเมโสหน้าใสอีกด้วย 

Thaibestbeauty จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับไฮยาลูรอนให้มากขึ้นค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ไฮยาลูรอนคืออะไร ? ทำจากอะไร ? อันตรายไหม ? สำคัญอย่างไรกับผิว ? มีประโยชน์อย่างไรบ้าง ? นำไปใช้อะไรได้บ้าง ? และเหมาะกับใคร ?


ทำความรู้จัก! ไฮยาลูรอน คืออะไร ?

ไฮยาลูรอน

ไฮยาลูรอน (Hyaluron) หรือ ไฮยาลูรอนิก แอซิด (HA: Hyaluronic Acid) คือ สารในกลุ่มพอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide) หรือโมเลกุลของน้ำตาลชนิดหนึ่ง ถือเป็นสารที่อยู่ใกล้ตัวเรามากค่ะ เพราะสารนี้จะมีอยู่ภายในเนื้อเยื่อของร่างกาย เช่น ดวงตา โครงสร้างผิวหนัง หลอดเลือด และข้อต่อ 

โดยคุณสมบัติเด่น ๆ ของไฮยาลูรอน คือ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้เซลล์ผิว มีส่วนช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจน และช่วยให้คอลลาเจนและอีลาสตินในโครงสร้างผิวหนังยึดเกาะกันได้ดี ทำให้ผิวพรรณของเรามีความยืดหยุ่น เรียบเนียน ดูฉ่ำวาว และดูสุขภาพดีนั่นเอง


ไฮยาลูรอน ทำจากอะไร ? อันตรายไหม ?

ไฮยาลูรอนไม่เป็นอันตรายค่ะ เพราะเป็นสารชนิดเดียวกับที่มีอยู่ภายในร่างกายของเรา และสามารถย่อยสลายได้เอง การฉีดเติม การกิน หรือการทาจึงมีความปลอดภัยมาก โดยไฮยาลูรอนที่เราพบเจอในปัจจุบันจะมาจาก 2 แหล่งนี้

  • ผลิตได้เองในร่างกาย ร่างกายของเราสามารถสร้างสารไฮยาลูรอนขึ้นได้เองตามธรรมชาติค่ะ โดยจะผลิตในผิวชั้นหนังแท้ ซึ่งไฮยาลูรอนจะกระจายอยู่ทั่วไปในโครงสร้างผิว ช่วยให้คอลลาเจน และอีลาสตินทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • สังเคราะห์จากเชื้อแบคทีเรีย เพื่อใช้ทดแทนไฮยาลูรอนที่ร่างกายเราสูญเสียไปเมื่ออายุเพิ่มขึ้น หรือใช้ปรับรูปหน้าในวงการเสริมความงามค่ะ โดยจะสกัดจากแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัส เพราะมีคุณสมบัติกักเก็บความชื้น เพิ่มความยืดหยุ่น และคงตัว จึงสามารถใช้ปรับรูปหน้าได้อย่างปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ รวมถึงยังผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA) และอย.ไทย

ไฮยาลูรอนสำคัญอย่างไรกับผิว ?

ไฮยาลูรอนจะกระจายอยู่ทั่วไปในโครงสร้างผิว ซึ่งพบมากถึง 80% ค่ะ ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น กระชับ และดูอ่อนเยาว์ รวมถึงยังชะลอการเกิดริ้วรอยได้อีกด้วย เพราะไฮยาลูรอนมีส่วนช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้เซลล์ผิว ช่วยสมานแผล และฟื้นฟูผิว

แต่เมื่อเราอายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายจะมีอัตราการผลิตไฮยาลูรอนได้ช้าและลดลงค่ะ โดยเฉลี่ยผิวของเราจะเริ่มเสื่อมตามวัยเมื่ออายุเกิน 20 ปี ทำให้ผิวของเราสุขภาพไม่ดีเท่าเดิม และเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมาได้ เช่น ผิวแห้งกร้าน ผิวหมองคล้ำ และเกิดริ้วรอยนั่นเอง


ประโยชน์ของไฮยาลูรอน

ประโยชน์ของไฮยาลูรอน
  • ไฮยาลูรอนช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในเซล์ผิว จึงทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ ไม่แห้งกร้าน เรียบเนียน และมีความยืดหยุ่นค่ะ จึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้
  • ไฮยาลูรอนมีส่วนช่วยในการสมานและฟื้นฟูผิว โดยจะช่วยรักษาเซลล์ผิวหนังให้ฟื้นตัวเร็วขึ้นถึง 80%
  • ไฮยาลูรอนช่วยลำเลียงสารอาหารเข้าสู่เซลล์ผิว โดยเฉพาะในส่วนที่ไม่เชื่อมต่อกับเลือดโดยตรง ทำให้ผิวหนังดูเต่งตึง และมีชีวิตชีวา
  • ไฮยาลูรอนช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายของรังสี UV ในแสงแดด และช่วยลดการสร้างอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัยได้
  • ไฮยาลูรอนสามารถบรรเทาอาการโรค ที่เกี่ยวข้องกับข้อต่อ ดวงตา รวมถึงใช้ในการรักษาบาดแผลอีกด้วย เช่น ลดอาการปวดข้อ ป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก ยารักษาต่อกระจก ยาหยอดตาลดอาการตาแห้ง รักษาแผลไฟไหม้ และยารักษาแผลในปาก 
  • นิยมผสมสารไฮยาลูรอนในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และเส้นผม เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น สกินแคร์ โลชัน อายครีม แชมพู หรือลิปบาล์ม
  • ไฮยาลูรอนที่มีการเชื่อมพันธะ (Crosslink) จะมีลักษณะเป็นเนื้อเจล และปั้นแต่งทรงได้ หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกันในชื่อฟิลเลอร์ค่ะ สามารถใช้เพื่อปรับรูปหน้า ในผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด 

กรดไฮยาลูรอนนำมาใช้อะไรได้บ้าง ?

ฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูรอน
  • สกินแคร์ เช่น อายครีม ครีมไฮยา หรือลิปบาล์ม จะเน้นเรื่องการเพิ่มความชุ่มชื้น และความยืดหยุ่นให้ผิว โดยจะใช้สารไฮยาลูรอน ที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก เพื่อให้สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายค่ะ สำหรับใครที่อยากบำรุงผิวด้วยวิธีนี้ จำเป็นต้องใช้งานเป็นประจำ และต่อเนื่อง เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลง 
  • ฟิลเลอร์ สารเติมเต็มสำหรับการปรับรูปหน้า โดยไม่ต้องการผ่าตัด ซึ่งจะเป็นสารไฮยารอนแบบเชื่อมพันธะ (Crosslink) ทำให้มีลักษณะเป็นเนื้อเจล ที่คงตัว และสามารถปั้นแต่งทรงได้ค่ะ สามารถฉีดเพื่อทดแทนโครงสร้างกระดูกหรือผิวที่ยุบตัว เติมร่องริ้วรอยให้ดูตื้นขึ้น หรือปรับรูปหน้า เช่น ฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก หรือฟิลเลอร์คาง

นอกจากนี้ผู้ที่ต้องการงานผิวกระจก ผิวฉ่ำวาว ดูสุขภาพดี เหมือนดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว และนอนวันละ 8 ชั่วโมง สามารถใช้ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดเป็นสกินบูสเตอร์ได้อีกด้วย เช่น Belotero Revive, Restylane Vital Light และ Juvederm Volite ซึ่งจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด เหมาะกับผู้ที่ต้องการบูสผิวอย่างเร่งด่วน

  • เมโสหน้าใส Filorga เป็นการฉีดสารอาหารเข้าสู่ผิวโดยตรง ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่ถูกทำลาย และบูสผิวให้มีสุขภาพดีขึ้น ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์เร็วกว่าการใช้สกินแคร์ค่ะ สำหรับตัวยาของเมโส Filorga จะมีส่วนประกอบหลักเป็นสารไฮยาลูรอนโมเลกุลเดี่ยว (Non Cross-Linked) จึงอยู่ในลักษณะของเหลว ที่สามารถกระจายตัวได้ดี นิยมใช้เพื่อแก้ปัญหาใต้ตา และฟื้นฟูผิวที่แห้งเสีย
  • อาหารเสริม ใครที่สงสัยว่า ไฮยาลูรอนกินได้ไหม ? คำตอบคือกินได้ค่ะ นอกจากจะใช้เป็นยาสำหรับการรักษาหรือบรรเทาอาการของโรคตามวินิจฉัยของแพทย์แล้ว ยังมีอาหารเสริมอีกหลายแบรนด์ที่มีส่วนผสมของสารไฮยาลูรอนค่ะ ซึ่งจะเน้นการเสริมให้ผิวมีความชุ่มชื้น หรือเนียนนุ่ม สำหรับใครที่ต้องการบำรุงผิวพรรณด้วยวิธีนี้ แนะนำให้ศึกษาวิธีการกิน และเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผ่านอย.ค่ะ

ใครบ้างที่เหมาะกับการใช้ไฮยาลูรอน ?

ไฮยาลูรอนเหมาะกับใคร

หลาย ๆ คนจะเห็นว่า สารไฮยาลูรอนนิยมมากในวงการด้านความงาม และการดูแลผิวพรรณ โดยการใช้ไฮยาลูรอนสังเคราะห์ จะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวต่าง ๆ ดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน หรือผิวขาดความชุ่มชื้น เพราะไฮยาลูรอนเป็นสารอุ้มน้ำ จึงช่วยกักเก็บความชื้นในผิว ปรับให้ผิวดูฉ่ำวาว และสุขภาพดีค่ะ
  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย หรือผิวหย่อนคล้อย เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา รอยตีนกา หรือร่องแก้ม สารไฮยาลูรอนมีส่วนช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจน ทำให้ผิวมีความกระชับมากขึ้น และริ้วรอยต่าง ๆ ก็จะดูจางลง
  • ผู้ที่มีร่องลึก ที่เกิดจากเนื้อ หรือกระดูกยุบตัวลง เช่น แอ่งลึกบริเวณขมับ หรือเบ้าตาลึก สามารถฉีดฟิลเลอร์ เพื่อเสริมกระดูก หรือเติมเต็มเนื้อที่ยุบตัว ทำให้ร่องลึกดูตื้นขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า สำหรับใครที่อยากปรับแก้ใบหน้าเล็กน้อย และไม่อยากผ่าตัด สามารถฉีดฟิลเลอร์เสริมคาง ฟิลเลอร์ปากเพิ่มความอวบอิ่ม หรือฟิลเลอร์หน้าผากเพิ่มความโหนกนูน
  • ผู้ที่ต้องการคงความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้า สารไฮยาลูรอนจะช่วยให้ผิวหนังมีความกระชับ และยืดหยุ่นค่ะ จึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้

สรุป

ไฮยาลูรอน หรือกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในโครงสร้างผิว ช่วยกักเก็บความชื้น ปรับให้ผิวดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว และสุขภาพดี จึงเป็นสารที่นิยมใช้เป็นส่วนผสมสำคัญของสกินแคร์ และใช้ในวงการความงาม เพื่อปรับรูปหน้า นอกจากนี้ยังมีความปลอดภัย เพราะสารสามารถย่อยสลายได้เอง

สำหรับใครที่ต้องการบูสผิวให้ฉ่ำวาว และฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วน การฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นวิธีที่ตอบโจทย์ และให้ผลไวที่สุด โดยจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่หลังฉีด แนะนำให้เลือกคลินิกความงามที่น่าเชื่อถือ ฉีดกับแพทย์ที่มากประสบการณ์ และเช็กฟิลเลอร์ของแท้ก่อนฉีดทุกครั้ง เพียงเท่านี้ ทุกคนก็จะได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจแล้วค่ะ