FillerBeauty

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร ? พร้อมวิธีแก้ไขให้กลับมาสวยมั่นใจ

ทำไมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน ? รู้สาเหตุที่ทำให้ Filler เป็นก้อนใต้ตา พร้อมวิธีแก้ไขให้กลับมาเรียบเนียน และการดูแลตัวเองหลังฉีดใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน

ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน

ปัญหาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน เป็นสิ่งที่หลายคนกังวลใจหลังฉีดใต้ตาค่ะ เพราะแม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยแก้ปัญหาร่องลึกและความหมองคล้ำได้ แต่ก็มีบางกรณีที่ผลลัพธ์อาจไม่เป็นไปตามที่หวัง เช่น ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน ทำให้ผิวไม่เรียบเนียน ดูไม่สวยงามจนขาดความมั่นใจได้ค่ะ

ในบทความนี้ Thaibestbeauty จะมาเจาะลึกถึงสาเหตุ วิธีแก้ไข และการป้องกันปัญหา Filler เป็นก้อนใต้ตา เพื่อให้ทุกคนเข้าใจและเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการฉีดใต้ตาอย่างปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่สวยงามค่ะ

คลิกอ่านหัวข้อ ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน


ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน เกิดจากอะไร ?

ปัญหาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม เทคนิคการฉีดไม่ถูกต้อง หรือแพทย์ขาดประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งล้วนส่งผลต่อผลลัพธ์หลังฉีด มาดูรายละเอียดกันค่ะว่ามีสาเหตุอะไรบ้าง!

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน เกิดจาก

ฉีดฟิลเลอร์ปลอม

ฟิลเลอร์ปลอมเป็นปัญหาหลักที่ทำให้เกิดก้อนใต้ตาหลังฉีดค่ะ ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานมักมีส่วนผสมของสารแปลกปลอมที่ไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ทำให้เกิดการจับตัวเป็นก้อนใต้ผิวหนัง และยังเสี่ยงต่อการอักเสบหรือติดเชื้อรุนแรงอีกด้วย การเลือกฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจากอย. จึงสำคัญมากค่ะ

รุ่นฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับตำแหน่งที่ฉีด

ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการฉีดในชั้นผิวที่แตกต่างกันค่ะ เช่น ฟิลเลอร์ที่มีขนาดโมเลกุลหนาแน่นสูง เหมาะสำหรับฉีดในผิวชั้นลึก เพื่อเสริมโครงสร้างหรือเติมเต็มบริเวณที่ต้องการแรงพยุงมาก หากนำฟิลเลอร์ชนิดนี้มาฉีดในชั้นผิวที่ตื้น อย่างใต้ตาที่ผิวบางมาก อาจทำให้ฟิลเลอร์ดูเป็นก้อนบวม หรือเห็นเป็นรอยนูนไม่เรียบเนียนได้ค่ะ

ใช้เทคนิคการฉีดไม่ถูกต้อง

การฉีดฟิลเลอร์ต้องอาศัยความแม่นยำสูงค่ะ หากฉีดในชั้นผิวที่ผิดพลาด เช่น ฉีดตื้นเกินไป หรือใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น อาจทำให้ฟิลเลอร์กระจายตัวไม่สม่ำเสมอ และจับตัวเป็นก้อนใต้ผิวหนังได้ การใช้เทคนิคที่ถูกต้องช่วยลดความเสี่ยง และทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นค่ะ

แพทย์ไม่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์

แพทย์ที่ขาดความชำนาญหรือไม่มีประสบการณ์เพียงพอ อาจไม่เข้าใจโครงสร้างผิวหนังและตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ส่งผลให้เกิดปัญหา เช่น ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน หรือเกิดอาการบวมผิดปกติได้ค่ะ


ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน อันตรายหรือไม่ ?

ถ้าฉีดใต้ตาแล้วเป็นก้อนขึ้นมา ไม่ต้องตกใจไปค่ะ เพราะในกรณีที่ใช้ ฟิลเลอร์แท้ชนิด Hyaluronic Acid (HA) สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์โดยใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ได้อย่างปลอดภัย

แต่ถ้าก้อนที่เกิดขึ้นมาจาก ฟิลเลอร์ปลอม หรือสารเติมเต็มชนิดอื่น เช่น ซิลิโคนเหลว หรือพาราฟิน ปัญหาอาจรุนแรงกว่านั้นค่ะ เพราะฟิลเลอร์ปลอมไม่สามารถสลายได้เอง ทำให้เกิดการติดเชื้อ การอักเสบ หรือแม้กระทั่งอาการร้ายแรงอย่างพังผืดเกาะเนื้อเยื่อ และในกรณีที่แย่ที่สุด อาจทำให้ตาบอดได้ค่ะ


ฟิลเลอร์เป็นก้อนใต้ตา ใช่อาการอักเสบหรือไม่ ?

ไม่เสมอไปค่ะ ไม่ใช่ทุกกรณีที่ฟิลเลอร์เป็นก้อนใต้ตาจะหมายถึงอาการอักเสบ บางครั้งปัญหานี้เกิดจากเนื้อฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมหรือเทคนิคการฉีดที่ผิดพลาด ซึ่งไม่เป็นอันตราย แต่ก็ทำให้ผลลัพธ์ดูไม่เรียบเนียน ไม่สวยงาม และทำให้บางคนเสียความมั่นใจได้ค่ะ

ฟิลเลอร์เป็นก้อนใต้ตา

อย่างไรก็ตาม หากก้อนฟิลเลอร์ที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับอาการปวด บวมแดงอย่างรุนแรง อาจเป็นสัญญาณของการอักเสบติดเชื้อที่ต้องรีบรักษาค่ะ ควรสังเกตอาการร่วม และปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและแก้ไขอย่างปลอดภัยค่ะ


อาการที่แสดงเมื่อฉีดใต้ตาแล้วเป็นก้อน

อาการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน สามารถสังเกตเบื้องต้นได้ โดยแบ่งออกเป็น 2 กรณีหลัก คือ ไม่มีการอักเสบ และ มีการอักเสบหรือติดเชื้อ ซึ่งแต่ละกรณีจะมีลักษณะอาการที่แตกต่างกันดังนี้ค่ะ

กรณีไม่มีการอักเสบ

ในช่วง 3 วันแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาจมีอาการบวมเป็นปกติ และก้อนบวมเหล่านี้จะค่อย ๆ ยุบลงภายใน 1-2 สัปดาห์ ผิวจะกลับมาเรียบเนียนเป็นปกติค่ะ วิธีสังเกตอาการที่ไม่มีการอักเสบ ได้แก่

  • บริเวณใต้ตาอาจเห็นเป็นก้อนเล็ก ๆ ผิวดูไม่เรียบเนียน
  • มีอาการบวม แต่ไม่มีอาการปวด หรือบวมแดงผิดปกติ
  • เมื่อเวลาผ่านไป ก้อนบวมจะค่อย ๆ ยุบลง และผิวกลับมาเป็นธรรมชาติ

กรณีมีการอักเสบหรือติดเชื้อ

อาการอักเสบใต้ตาหลังฉีดฟิลเลอร์ก่อนเป็นก้อน

ถ้าก้อนใต้ตาเกิดจากการอักเสบหรือติดเชื้อ อาการจะแสดงชัดเจน และควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยด่วนค่ะ วิธีสังเกตอาการที่อาจเกิดการอักเสบ ได้แก่

  • รู้สึกปวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ และอาการไม่ดีขึ้น
  • บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์บวมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • ผิวมีสีแดงหรือคล้ำผิดปกติ อาจดูเหมือนมีรอยช้ำที่ไม่หาย
  • ผิวบริเวณนั้นรู้สึกร้อนกว่าปกติเมื่อสัมผัส คล้ายกับอาการไข้

วิธีแก้ไขเมื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน

หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน กรณีฟิลเลอร์ปลอม เช่น ซิลิโคนเหลว จะต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดขูดออกเท่านั้นค่ะ เพราะไม่สามารถสลายเองได้ แต่ถ้าเป็นฟิลเลอร์แท้ชนิด Hyaluronic Acid (HA) สามารถแก้ไขได้ง่ายด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ โดยไม่ต้องผ่าตัดเลยค่ะ

การฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน คืออะไร ?

การฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีที่ใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase: HYAL) ในการสลายฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid ที่เป็นก้อนหรือบวมออกอย่างปลอดภัยค่ะ

ก่อนฉีดแพทย์จะตรวจดูปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดไปก่อนหน้า เพื่อคำนวณปริมาณเอนไซม์ที่เหมาะสมสำหรับการสลาย โดยไม่ให้กระทบเนื้อเยื่อส่วนอื่น ๆ ของผิว

หลังการฉีดสลาย บางส่วนจะเห็นผลทันที และฟิลเลอร์ที่เหลือจะค่อย ๆ ถูกสลายภายใน 1-3 วัน ผิวบริเวณใต้ตาก็จะกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิมค่ะ

ขั้นตอนการฉีดสลายเมื่อฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน

กรณีใช้ฟิลเลอร์ไฮยาลูรอนแท้ (HA) สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลาย Filler ใต้ตาเป็นก้อนได้อย่างปลอดภัย โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

ขั้นตอนฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน
  1. แพทย์จะทำการตรวจสอบบริเวณที่เป็นก้อน พร้อมสอบถามประวัติการฉีดฟิลเลอร์ เช่น ปริมาณที่ฉีด และยี่ห้อที่ใช้ เพื่อประเมินวิธีแก้ไขที่เหมาะสม
  2. แพทย์จะคำนวณปริมาณตัวยาที่ต้องใช้ เพื่อให้เพียงพอสำหรับสลายฟิลเลอร์ โดยไม่กระทบเนื้อเยื่อส่วนอื่น
  3. ฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ในบริเวณที่เป็นก้อน เพื่อสลายฟิลเลอร์ที่สะสมอยู่
  4. ตัวยาไฮยาลูโรนิเดสจะออกฤทธิ์สลายฟิลเลอร์บางส่วนทันที ไปจนถึง 48 ชั่วโมง ผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
  5. หลังการฉีดสลาย แพทย์จะนัดติดตามผลเพื่อตรวจสอบว่า ก้อนฟิลเลอร์ได้สลายออกหมดแล้วหรือไม่ หากยังเหลือบางส่วน อาจมีการฉีดสลายเพิ่มเติมในครั้งถัดไป

หลังการฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตา อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น รอยแดงหรือรอยเข็มบริเวณที่ฉีด ซึ่งเป็นอาการปกติและจะหายไปเองในระยะเวลาไม่นาน โดยไม่เป็นอันตรายค่ะ หากต้องการฉีดฟิลเลอร์ใหม่ ควรเว้นระยะห่างประมาณ 5-7 วัน เพื่อให้ตัวยาสลายฟิลเลอร์ออกฤทธิ์จนหมดก่อน

ทั้งนี้ การแก้ไข Filler ใต้ตาเป็นก้อน ควรทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ และทำในคลินิกที่มีมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ


วิธีเลือกคลินิกฉีด Filler ป้องกันใต้ตาเป็นก้อน

ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ไหนดี ? สิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยค่ะ เพื่อป้องกันปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน ควรพิจารณาคลินิกอย่างละเอียด โดยมีปัจจัยสำคัญที่ควรตรวจสอบดังนี้

  • คลินิกต้องได้มาตรฐาน
    คลินิกที่เลือกควรมีใบอนุญาตประกอบกิจการที่ถูกต้องตามกฎหมาย สังเกตได้จากป้ายชื่อสถานพยาบาลที่มีเลขใบอนุญาต 11 หลัก พร้อมเอกสารแสดงใบอนุญาตที่ชัดเจน เพื่อความมั่นใจในมาตรฐานของสถานพยาบาลค่ะ
  • บรรยากาศคลินิกสะอาดและน่าเชื่อถือ
    คลินิกควรมีบรรยากาศที่โปร่ง สะอาด สว่าง และไม่คับแคบ โดยห้องหัตถการควรมีพื้นที่กว้างขวาง นอกจากนี้ ควรเลือกคลินิกที่อยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก มีที่จอดรถ หรืออยู่ในห้างสรรพสินค้า เพื่อความสะดวกในการเข้ารับบริการหรือการติดตามผลค่ะ
  • มีการติดตามผลหลังทำหัตถการ
    คลินิกที่ดีจะให้ความสำคัญกับการติดตามผลหลังทำเสมอ โดยจะนัดตรวจเช็กและให้คำแนะนำการดูแลตัวเองอย่างใกล้ชิดทั้งก่อนและหลังการฉีด เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์ออกมาสวยงามและปลอดภัยค่ะ
  • ดูรีวิวจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
    ควรดูรีวิวจากแหล่งที่เป็นกลาง เช่น Facebook หรือ Pantip ซึ่งเป็นพื้นที่ที่คลินิกไม่สามารถลบความเห็นได้ เพื่อความโปร่งใส นอกจากนี้ ควรเลือกดูรีวิวแบบคลิปวิดีโอที่แสดงผล Before-After มากกว่าภาพถ่าย เนื่องจากภาพนิ่งสามารถปรับแต่งได้ง่ายค่ะ
  • มีช่องทางติดต่อที่สะดวก
    คลินิกควรมีช่องทางติดต่อที่ชัดเจน เช่น Facebook, Line@ หรือเว็บไซต์ และสามารถนัดหมายล่วงหน้าได้ รวมถึงควรสามารถสอบถามหรือปรึกษาปัญหาโดยตรงกับแพทย์ที่ดูแลเคสของตัวเอง เพื่อสร้างความมั่นใจตลอดกระบวนการค่ะ

การดูแลตัวเองไม่ให้ฉีดใต้ตาแล้วเป็นก้อน

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญค่ะ เพื่อป้องกันปัญหาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน และช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและคงอยู่ได้นาน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้

  • อย่าบีบ นวด แกะ หรือเกาบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ในช่วงแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้ค่ะ
  • อยู่ในที่อากาศเย็นและเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น ซาวน่า การตากแดด หรือการอยู่ใกล้เตาร้อนอย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังทำค่ะ
หลีกเลี่ยงความร้อนป้องกันฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน
หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด
  • หลีกเลี่ยงเลเซอร์ร้อน เช่น RF หรือ Thermage ที่ลงลึกถึงชั้นผิว เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือนหลังฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพค่ะ
  • งดออกกำลังกายหนักและดื่มแอลกอฮอล์ เพราะสามารถเพิ่มการไหลเวียนเลือด ทำให้อาการบวมลดลงช้ากว่าปกติค่ะ
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยควรดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตร เพราะฟิลเลอร์มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์คงรูปสวยงามและอยู่ได้นานค่ะ
  • งดสูบบุหรี่ เพราะสารในบุหรี่ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้การยุบบวมช้าลง และลดระยะเวลาที่ฟิลเลอร์จะคงอยู่ได้ค่ะ
  • กินยาตามที่แพทย์สั่ง เช่น ยาลดบวม ควรทานให้ครบตามที่กำหนด เพื่อลดอาการบวมและป้องกันการติดเชื้อค่ะ
  • งดล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น และงดอยู่ใกล้สิ่งที่ให้ความร้อน เช่น แสงแดดหรือเตาร้อน ในช่วงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาค่ะ
  • ในช่วง 2-3 คืนแรก ควรนอนยกศีรษะสูงกว่าระดับหน้าอก โดยใช้หมอนรองศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ ห้ามนอนตะแคง เพื่อลดความเสี่ยงที่ฟิลเลอร์จะถูกกดทับ
  • ใน 3 วันแรกหลังฉีด ควรลดการขยับใบหน้า เช่น การยิ้มกว้างหรือการแสดงอารมณ์มาก ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ไปตำแหน่งที่ไม่ต้องการค่ะ

สรุปเรื่องฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน

ปัญหาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ถ้าใช้ฟิลเลอร์ HA แท้ ก็แก้ไขได้ง่ายด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ค่ะ ซึ่งการป้องกันที่ดีที่สุด คือ เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ได้มาตรฐาน และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ พร้อมทั้งดูแลตัวเองหลังฉีดให้ถูกต้อง เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาและได้ผลลัพธ์ที่สวยงามอย่างที่ต้องการค่ะ