ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
|

ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม!? ช่วยอะไร อันตรายไหม เหมาะกับใคร

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ถือเป็นจุดฉีดฟิลเลอร์อันดับต้น ๆ ที่หลายคนให้ความสนใจ แต่ทำไมถึงต้องฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ? วิธีการนี้ช่วยอะไร มีความเสี่ยงหรือความอันตรายอย่างไร และเหมาะสมกับใคร ? 

ในบทความนี้ จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ ความเสี่ยง และกลุ่มคนที่เหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ก่อนที่จะตัดสินใจทำค่ะ


ปัญหาร่องแก้มลึก

ปัญหาร่องแก้มลึก

“ร่องแก้มลึกจะทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ใบหน้าดูไม่สดใส ขาดความกระชับ ส่งผลให้เสียบุคลิกภาพได้”

ร่องแก้มลึก คือ รอยบุ๋มที่เกิดขึ้นบริเวณข้างแก้มตั้งแต่บริเวณปีกจมูกโค้งยาวลงมาจนถึงบริเวณมุมปาก มักเห็นได้ชัดเมื่อแสดงสีหน้า เช่น เวลายิ้ม หรือหัวเราะ

วิธีสังเกตร่องแก้มลึก มีดังนี้

  • สังเกตรอยบุ๋มบริเวณข้างแก้มตั้งแต่บริเวณปีกจมูกโค้งยาวลงมาจนถึงบริเวณมุมปาก
  • หากรอยบุ๋มนั้นเห็นได้ชัดแม้ไม่ได้แสดงสีหน้า แสดงว่าร่องแก้มลึก
  • หากรอยบุ๋มนั้นลึกขึ้นเรื่อยๆ แสดงว่าร่องแก้มลึกมากขึ้น

ปัญหาร่องแก้มลึก เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป สาเหตุหลักมาจากความหย่อนคล้อยของผิว เนื่องมาจากคอลลาเจนและอีลาสตินที่อยู่ใต้ผิวเสื่อมประสิทธิภาพลงตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ริ้วรอยร่องแก้ม ยังมาจากปัจจัยกระตุ้นและพฤติกรรม เช่น

  • อายุที่มากขึ้น 
  • กระดูกแก้มยุบตัวลง
  • การสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว
  • การแสดงสีหน้า เช่น ยิ้ม หัวเราะมาก ๆ 
  • ปัจจัยด้านพฤติกรรม เช่น การนอนตะแคง การพักผ่อนไม่เพียงพอ การสูบบุหรี่
  • ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น แสงแดด มลภาวะ 

ร่องแก้มลึก ส่งผลต่อใบหน้าอย่างไร ?

ร่องแก้มลึก ส่งผลต่อใบหน้าอย่างไร
  • ทำให้ใบหน้าดูมีอายุมากกว่าวัย เนื่องจากร่องแก้มลึกเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงวัยที่เพิ่มขึ้น กระดูกแก้มยุบตัวลง และการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว
  • ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า เนื่องจากร่องแก้มลึกทำให้ใบหน้าดูไม่เต็มอิ่ม ส่งผลให้ใบหน้าดูโทรม เหนื่อยล้า
  • ทำให้ใบหน้าดูไม่สมดุล เนื่องจากร่องแก้มลึกทำให้ใบหน้าดูไม่สมดุลกับส่วนอื่น ๆ ของใบหน้า เช่น จมูก หน้าผาก 
  • อาจทำให้รู้สึกขาดความมั่นใจ ส่งผลต่อบุคลิกภาพและความรู้สึกในตนเองได้ จนไม่อยากเข้าสังคม หรือไม่อยากถ่ายรูป 

สำหรับใครที่กังวลเกี่ยวกับปัญหาร่องแก้มลึก การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นหนึ่งในเป็นวิธีแก้ไขปัญหาร่องแก้มลึก ที่มีความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากเห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่าตัดค่ะ 


ทางเลือกแก้ปัญหาร่องแก้มลึกยอดฮิต ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คืออะไร ?

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic acid) เข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณร่องแก้ม เพื่อเติมเต็มส่วนที่ยุบตัวลง ทำให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้น พร้อมกับทำหน้าที่ช่วยกักเก็บน้ำไว้ชั้นใต้ผิวหนัง​ ทำให้ผิวดูชุ่มชื้น เรียบเนียน ผิวหน้าดูอ่อนกว่าวัย ไม่โทรม

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มสามารถแก้ปัญหาร่องแก้มลึกได้โดยตรง โดยแพทย์จะประเมินปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล จากนั้นจึงฉีดฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณร่องแก้มตามตำแหน่งที่ต้องการ โดยใช้เข็มฉีดขนาดเล็ก ทำให้รู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย และสามารถกลับบ้านได้หลังทำทันที 

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

  • เห็นผลทันทีหลังทำ
  • ไม่ต้องพักฟื้น
  • ปลอดภัย
  • ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ

เทียบให้ชัด! ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม Vs วิธีการอื่น ๆ ที่ช่วยแก้ไขปัญหาร่องแก้ม แบบไหนดี ?

ข้อดีข้อเสีย
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
  • เห็นผลทันทีหลังทำ
  • ไม่ต้องพักฟื้น
  • ปลอดภัย
  • ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
  • ค่าใช้จ่ายไม่สูง
  • ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-24เดือน
  • อาจเกิดการบวมหรือช้ำหลังทำได้
  • อาจเกิดก้อนแข็งบริเวณที่ฉีดได้
การร้อยไหมยกกระชับร่องแก้ม
  • ช่วยยกกระชับผิวบริเวณร่องแก้มให้ตึงขึ้น
  • ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
  • ค่าใช้จ่ายไม่สูง
  • ใช้เวลาในการเห็นผล 1 เดือน
  • อาจเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อบริเวณที่ร้อยไหมได้
  • ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่แน่นอน
Hifu/Ulthera/Thermageยกกระชับร่องแก้ม
  • เห็นผลทันทีหลังทำ 20-30%
  • ไม่ต้องพักฟื้น
  • ปลอดภัย
  • ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
  • ไม่ต้องฉีดหรือผ่าตัด
  • ช่วยยกกระชับผิวได้ทั่วใบหน้า
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6 เดือน ถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับเครื่องยกกระชับที่ใช้
  • อาจมีอาการบวม แดง
  • อาจต้องใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน 2-3 เดือน
  • มีความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้หรือผิวไหม้เล็กน้อย
  • ค่าใช้จ่ายอาจสูง
ผ่าตัดยกกระชับร่องแก้ม
  • เห็นผลได้นานที่สุด อย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป
  • ช่วยยกกระชับผิวบริเวณร่องแก้มให้ตึงขึ้นอย่างถาวร
  • ต้องผ่าตัด มีความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง เช่น เลือดออก บวมช้ำ ติดเชื้อ ผลลัพธ์อาจไม่เป็นไปตามต้องการ
  • ค่าใช้จ่ายสูง
วิธีดูแลผิวอื่น ๆ 
  • ปลอดภัย
  • ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • อาจใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล
  • ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนเท่าการฉีดฟิลเลอร์หรือร้อยไหม

จากตารางการเปรียบเทียบ จะได้เห็นได้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นการแก้ไขปัญหาร่องแก้มที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง เพราะเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาร่องแก้มลึกได้อย่างตรงจุด สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว เห็นผลทันที และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ เมื่อเทียบกับวิธีการอื่น ๆ ในการแก้ไขปัญหาร่องแก้มลึก

สำหรับใครที่มีปัญหาร่องแก้มลึก แต่ยังลังเลไม่รู้ว่าควรจะเลือกทำวิธีใดเพื่อแก้ไขปัญหาร่องแก้มลึกดี ? ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อหาวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมกับตนเอง โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพผิว ปัญหาร่องแก้ม งบประมาณ และความต้องการค่ะ


ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เหมาะกับใคร ?

  • เหมาะกับผู้ที่มีร่องแก้มลึก จากการสูญเสียไขมันใต้ผิวหนังหรือผลของการแก่ชรา ต้องการลดความลึกและทำให้ผิวดูเรียบเนียน
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า เพื่อให้หน้าดูมีมิติและสมดุลมากขึ้น โดยเฉพาะหน้าที่ดูแบนหรือขาดความโดดเด่น
  • เหมาะกับผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อย ต้องการกระชับผิวและลดริ้วรอยที่เกิดจากผิวหย่อนคล้อย
  • เหมาะกับผู้ที่มีสุขภาพผิวดี ไม่มีปัญหาผิวหนังอักเสบหรือการติดเชื้อในบริเวณที่จะฉีด

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นวิธีการที่ช่วยให้ร่องแก้มดูเต็มขึ้นและลดความลึกของร่องแก้มได้ แต่จำเป็นต้องได้รับการประเมินจากแพทย์มากประสบการณ์เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ


ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรฉีดกี่ CC ?

ปริมาณ CC ของฟิลเลอร์ร่องแก้มที่แพทย์ใช้โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 1-3 CC ขึ้นอยู่กับระดับความลึกของร่องแก้มและผลลัพธ์ที่ต้องการ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและแนะนำปริมาณ CC ที่เหมาะสมที่สุดให้เป็น Case by Case ค่ะ


ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อันตรายไหม ? ทำไมเป็นข่าวบ่อย

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม โดยทั่วไปถือว่าไม่อันตราย หากฉีดโดยแพทย์ที่ชำนาญมีประสบการณ์สูงและเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐานผ่าน อย. ฟิลเลอร์จะสลายตัวไปเองตามธรรมชาติภายใน 1-2 ปี โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มก็อาจเกิดผลข้างเคียงได้บ้าง เช่น อาการบวมหรือช้ำ อาการอักเสบ ก้อนแข็ง รอยแผลเป็น การแพ้ เป็นต้น หากพบอาการผิดปกติใด ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

สาเหตุที่การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นข่าวบ่อย อาจเป็นเพราะการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากเป็นวิธีแก้ปัญหาร่องแก้มลึกที่ได้ผลดีและเห็นผลทันที อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ไม่ต้องพักฟื้นนาน

นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มสามารถทำได้โดยแพทย์ทั่วไป ทำให้มีคลินิกความงามให้บริการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นจำนวนมาก ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์หรือใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้

ดังนั้น หากสนใจฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ เพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี


แนวทางในการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม 

  • ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือ โดยสามารถตรวจสอบได้จากใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล 
แนวทางในการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
  • สอบถามถึงประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำหัตถการ
  • สอบถามถึงชนิดและยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้ ว่าผ่าน อย. หรือไม่
  • สอบถามถึงราคาและเงื่อนไขการรับประกันหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
  • หากพบคลินิกใดที่เสนอราคาฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มในราคาที่ต่ำกว่าปกติมาก ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากอาจใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อยู่ได้นานไหม ?

ระยะเวลาที่ฟิลเลอร์ร่องแก้มอยู่ได้นาน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้และวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด โดยฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic acid) ที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มสามารถอยู่ได้นานถึง 6-24 เดือน ดังนี้

  • Juvederm Ultra Plus ➡12 เดือน
  • Juvederm Voluma ➡ 18 เดือน
  • Juvederm Volift ➡ 12 เดือน
  • Juvederm Volux ➡ 18-24 เดือน
  • Restylane Volyme ➡ 18 เดือน
  • Belotero Intense ➡ 18 เดือน
  • Definisse Restore ➡ 12 เดือน
  • Flore AQUA-S ➡ 6 เดือน
  • Biohyalux Derm lines ➡ 9-12 เดือน

นอกจากนี้ การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอย่างเหมาะสม เช่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดรุนแรง หลีกเลี่ยงการขยับหน้าบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว จะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น

หากรู้สึกว่าฟิลเลอร์ร่องแก้มเริ่มสลายตัว จะเริ่มเห็นร่องแก้มลึกขึ้นอีกครั้ง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ภายใน 1-2 ปีหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หากต้องการคงผลลัพธ์ สามารถกลับมาฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มซ้ำได้เรื่อย ๆ 


หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม มีผลข้างเคียงอย่างไร ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม มีผลข้างเคียงอย่างไร

หลังการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อาจเกิดผลข้างเคียงเช่น บวม แดง จากรอยเข็มเล็กน้อย หรือมีความรู้สึกไม่สบายบริเวณที่ฉีด ซึ่งมักจะหายไปภายใน 3-7 วัน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และหลีกเลี่ยงการนวดหรือกดที่บริเวณที่ฉีด 


หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยิ้มได้ไหม ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยิ้มได้ค่ะ การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นวิธีที่ช่วยเติมเต็มร่องแก้มให้ดูเต็มขึ้น โดยวิธีการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มนั้น แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณร่องแก้ม โดยฉีดตามแนวรอยบุ๋มร่องแก้ม เพื่อให้ฟิลเลอร์กระจายตัวไปในตำแหน่งที่เหมาะสม

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มไม่ได้ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณร่องแก้มทำงานผิดปกติ ดังนั้น จึงสามารถยิ้มได้ปกติ ไม่มีอาการยิ้มยากหรือยิ้มแล้วเห็นร่องแก้มลึกขึ้นแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อาจมีอาการบวมหรือช้ำบริเวณที่ฉีดได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ จึงอาจทำให้ยิ้มได้ไม่เต็มที่ในช่วงแรก แต่หลังจากอาการบวมหรือช้ำหายไปแล้ว ก็สามารถยิ้มได้ปกติ

หากกังวลว่าฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วจะทำให้ยิ้มยากหรือยิ้มแล้วเห็นร่องแก้มลึกขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพใบหน้าและแนะนำเทคนิคการฉีดที่เหมาะกับความต้องการ


ถ้าฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยิ้มแล้วเป็นก้อน แก้ไขอย่างไร ?

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยิ้มแล้วเป็นก้อน หมายถึง อาการที่เมื่อยิ้มแล้วจะเห็นเป็นก้อนบริเวณร่องแก้ม อาการนี้อาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง การฉีดฟิลเลอร์มากเกินไป และการใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน

แนวทางการแก้ไข ⇒พบแพทย์เพื่อฉีดยาสลายฟิลเลอร์ หรือฉีดฟิลเลอร์ใหม่ในตำแหน่งที่เหมาะสม

วิธีป้องกัน ⇒ เลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงและเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน


ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม กี่วันเห็นผล ? 

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีด และเห็นผลลัพธ์เต็มที่ภายใน 2 สัปดาห์ 


หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรปฏิบัติตัวอย่างไร ? 

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

การปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอย่างเหมาะสม จะช่วยให้อาการบวมหรือช้ำลดลงเร็วขึ้น และช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น โดยมีวิธีปฏิบัติตัวดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดรุนแรง เช่น การนวด การขยี้ การกดทับ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวหรือฉีดเข้าผิดตำแหน่ง
  • หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว เช่น การออกกำลังกายหนักๆ การเล่นกีฬา การว่ายน้ำ การอาบน้ำร้อนจัด
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยให้ฟิลเลอร์คงอยู่ได้นานขึ้น
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ เพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
  • ประคบเย็นหรือรับประทานยาแก้ปวดได้ หากมีอาการบวมหรือช้ำบริเวณที่ฉีด โดยควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ 

หากพบอาการผิดปกติใด ๆ เช่น อาการบวมหรือช้ำรุนแรง อาการอักเสบ อาการปวด ก้อนแข็ง รอยแผลเป็น การแพ้ เป็นต้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที


สรุป

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ช่วยให้หน้าดูเด็กลงและสดใสขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ เห็นผลชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์ รวมทั้งยังอยู่ได้นานและไม่เป็นอันตราย สำหรับใครที่กำลังสนใจการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แต่ยังมีคำถามเพิ่มเติม ควรปรึกษากับแพทย์ผู้ที่มีประสบการณ์ เลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน ภายในคลินิกที่น่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

Similar Posts