ฉีดฟิลเลอร์คาง
หากคุณกำลังมองหาวิธีแก้ไขให้หน้าเรียวขึ้น พร้อมทั้งลดปัญหาคาง ไม่ว่าจะเป็นคางสั้น คางตัด คางไม่เท่ากัน หรือคางบุ๋ม การ”ฉีดฟิลเลอร์คาง” อาจเป็นคำตอบ! เพราะนี่คือวิธีแก้ปัญหาหน้ากลม ที่สะดวกและรวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น แค่จิ้มเดียวก็สวยขึ้นได้ในทันที!
สำหรับใครที่เริ่มสนใจ และอยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์คางต่อไป Thaibestbeauty ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์คาง คืออะไร ช่วยอะไร แก้ไขปัญหาคางได้อย่างไร ฉีดฟิลเลอร์คาง VS ผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคน พร้อมข้อมูลที่ควรรู้เบื้องต้นส่วนอื่น ๆ
ฉีดฟิลเลอร์คาง คืออะไร ?
ฟิลเลอร์คาง คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic acid) เข้าไปบริเวณคาง เพื่อเสริมคาง และปรับรูปหน้าให้ดูสมมาตร หรือหน้าเรียววีเชฟมากขึ้น หลังฉีดฟิลเลอร์คางเห็นผลทันที ไม่มีอาการบวมช้ำเหมือนการผ่าตัด และเนื้อฟิลเลอร์จะสลายไปเองตามธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์คาง ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
ฟิลเลอร์คาง นิยมฉีดเพื่อปรับรูปหน้า เสริมโหงวเฮ้ง หรือแก้ไขปัญหาคางไม่สวย ไม่สมส่วน โดยหลัก ๆ ได้แก่ แก้ปัญหาคางสั้น คางตัด หน้ากลม ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียว วีเชฟมากขึ้น แก้ปัญหาคางไม่เท่ากัน คางบุ๋ม ให้ได้สัดส่วนมากขึ้น
รวมปัญหาคาง ที่แก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์คาง
- ปัญหาคางสั้น ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน หน้ากลม ไม่เป็นวีเชฟ การฉีดฟิลเลอร์คางสามารถช่วยยืดคางให้ยาวขึ้น ทำให้ใบหน้าดูเรียวยาวขึ้น
- ปัญหาคางตัด ส่งผลให้ใบหน้าดูแข็งทื่อ ไม่อ่อนหวาน การฉีดฟิลเลอร์คางสามารถช่วยเติมเต็มบริเวณคางให้ดูโค้งมนขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนหวานขึ้น
- ปัญหาคางไม่เท่ากัน ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่สมมาตร การฉีดฟิลเลอร์คางสามารถช่วยปรับสมดุลของคางให้เท่ากัน ทำให้ใบหน้าดูสมมาตรมากขึ้น
- ปัญหาคางบุ๋ม ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่เต็ม ไม่สวย การฉีดฟิลเลอร์คางสามารถช่วยเติมเต็มบริเวณคางให้เต็มขึ้น ทำให้ใบหน้าดูสวยขึ้น
- ปัญหาโหงวเฮ้งคางไม่ดี ตามศาสตร์จีน เชื่อว่าอาจส่งผลเสียต่อชีวิตได้ เช่น คางสั้น จะทำให้เป็นคนขี้กลัว ขาดความมั่นใจ คางตัด จะทำให้เป็นคนแข็งกระด้าง ขาดความอ่อนโยน คางบุ๋ม จะทำให้เป็นคนขาดความมั่นใจ ขาดความมั่นคงในชีวิต การฉีดฟิลเลอร์คางสามารถช่วยปรับแต่งโหงวเฮ้งคางให้ดีขึ้นได้ โดยเชื่อว่าคางที่ดีควรมีลักษณะยาว เรียวแหลม จะช่วยเสริมความมั่นใจ เสริมบารมี และประสบความสำเร็จในชีวิต
ฉีดฟิลเลอร์คาง VS ผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคน
ฟิลเลอร์คาง และ การผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคน เป็นสองวิธีที่นิยมใช้ในการเสริมคางเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวสวยขึ้น แต่ทั้งสองวิธีก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน การเลือกวิธีใดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ปัญหาคางที่ต้องการให้แก้ไข งบประมาณ และความต้องการในการดูแลรักษาหลังทำ ดังนี้
ฉีดฟิลเลอร์คาง |
ผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคน |
ข้อดี ✔ ไม่ต้องผ่าตัด ใช้เวลาทำเพียง 30 นาที ✔ ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น ✔ เห็นผลลัพธ์ทันที ไม่ต้องรอนาน ✔ ปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย สลายหมดเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ ข้อเสีย เสริมคางได้ไม่เกิน 1 ซม. X ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี X อาจเกิดการบวม แดง หรือความรู้สึกตึงที่คางได้ X อาจเกิดก้อนหรือเป็นตะปุ่มตะป่ำได้ |
ข้อดี ✔ ผลลัพธ์จะอยู่ได้ถาวร ✔ ไม่เป็นอันตราย เสริมคางได้ยาวกว่า 1 ซม. ✔ ทำแล้วไม่เห็นผลทันที ต้องรอ 1-3 เดือน ✔ อยากแก้ไขต้องผ่าตัดเปลี่ยนซิลิโคน ข้อเสีย X ต้องผ่าตัด ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1 สัปดาห์ X หากเสริมคางยาวไป อาจทำให้หน้าแข็ง ดูไม่เป็นธรรมชาติ X อาจเกิดแผลเป็นได้ X อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น การติดเชื้อ เลือดออก เป็นต้น X อยากแก้ไขต้องผ่าตัดเปลี่ยนซิลิโคน |
สรุป
- ฉีดฟิลเลอร์คาง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคางสั้น คางถอย คางบุ๋ม ที่ต้องการปรับรูปทรงคางให้ดูเรียวสวยขึ้นประมาณ 1 เซนเติเมตรอย่างรวดเร็ว มีงบประมาณจำกัด ไม่อยากผ่าตัด และไม่มีเวลาพักฟื้น
- ผ่าตัดเสริมคาง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคางสั้นมาก คางยื่นมาก คางเบี้ยวมาก ที่ต้องการปรับรูปทรงคางให้ดูเรียวสวยขึ้นเกิน 1 เซนติเมตรแบบถาวร มีงบประมาณ มีเวลาพักฟื้น พร้อมดูแลตัวเองหลังทำ
คำแนะนำ
หากใครกำลังพิจารณาฉีดฟิลเลอร์คางหรือผ่าตัดเสริมคาง ควรปรึกษาแพทย์ผู้ที่มีประสบการณ์สูง เพื่อประเมินปัญหาคาง และแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมให้กับแต่ละบุคคล
ฉีดฟิลเลอร์คาง อันตรายไหม ?
ฟิลเลอร์คางโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีความปลอดภัย เมื่อใช้สารเติมเต็มที่ทำจากไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic acid) ของแท้ ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ในปริมาณที่เหมาะสม และถูกทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ภายในคลินิกที่ได้มาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม การใช้ฟิลเลอร์คาง อาจมีปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์คาง ได้แก่:
- ปัญหาที่เกิดจากอาการบวมหรืออักเสบ มักเกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันแรกหลังฉีด อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ อาการปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด อาการเหล่านี้สามารถหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา สามารถบรรเทาลงได้ด้วยตัวเอง โดยการใช้ยาแก้ปวดหรือประคบเย็นบริเวณที่ฉีด
- ปัญหาที่เกิดจากตำแหน่งหรือปริมาณการฉีด ปัญหาที่พบได้บ่อย ได้แก่
– ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวผิดตำแหน่ง มักเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณมากเกินไปหรือฉีดเข้าไปในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม อาการที่พบได้ ได้แก่ คางเบี้ยว คางยื่น คางสั้น สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดยาละลายฟิลเลอร์หรือผ่าตัดนำฟิลเลอร์ออก
– เกิดก้อนหรือเป็นตะปุ่มตะป่ำบริเวณที่ฉีด มักเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมหรือฉีดในปริมาณมากเกินไป สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดยาละลายฟิลเลอร์
– ติดเชื้อบริเวณที่ฉีด มักเกิดจากการใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาดหรือแพทย์ผู้ฉีดไม่ชำนาญ อาการที่พบได้ ได้แก่ ปวด บวม แดง อักเสบ บริเวณที่ฉีดนานกว่า 2 สัปดาห์ อาจมีไข้ร่วมด้วย พบได้น้อยมาก
นอกจากนี้ ฟิลเลอร์คางอาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางประการ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคเลือด โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ เนื่องจากอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการฉีดฟิลเลอร์คางได้ ดังนั้น ควรปรึกษากับแพทย์ผู้ที่มีประสบการณ์สูงก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์คาง
วิธีลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์คาง มีดังนี้
- เลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้
- เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงและมีความชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์คางให้เข้าใจก่อนตัดสินใจฉีด
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
หากพบปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์คาง ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
ฉีดฟิลเลอร์คาง ใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนได้บ้าง ?
การฉีดฟิลเลอร์คาง ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง เนื้อแน่น ไม่ฟู เพื่อให้ปั้นทรงคางได้สวย ฟิลเลอร์ 7 ยี่ห้อ 7 รุ่น ที่แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ คือ
ยี่ห้อ/รุ่น |
รายละเอียด |
ระยะเวลา |
ราคา |
Juvederm Voluma |
ฟิลเลอร์เนื้อแน่นและฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเห็นความโค้งมนของคาง สามารถเติมคางได้อย่างเป็นธรรมชาติ |
18 เดือน |
14 ,000 / 1 CC |
Juvederm Volux |
ฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความคงตัวสูง ขึ้นรูปได้ง่าย ปั้นทรงสวย ช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าได้ดีที่สุด |
18-24 เดือน |
18,000 / 1 CC |
Restylane Perlane Lyft |
ฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความคงตัวสูง ไม่ฟู ใช้สำหรับเสริมทดแทนกระดูกและยังคงความเป็นธรรมชาติ |
12 เดือน |
12,000 / 1 CC |
Belotero Intense |
ฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความยืดหยุ่นสูง มีจุดเด่นในการใช้แก้ปัญหาร่องลึกมาก ๆ จากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนัง |
18 เดือน |
9,900 / 1 CC |
Definisse Core |
ฟิลเลอร์เนื้อแน่น เหมาะกับการเสริมกระดูก ปรับรูปหน้า เติม mid-face คาง กรอบหน้า |
18 เดือน |
16,000 / 1 CC |
Flore Max |
ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ขึ้นรูปได้ดี มีความละมุน ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดแก้ปัญหาในไขมันชั้นลึก คาง/ขมับ |
9-12 เดือน |
7,900 / 1 CC |
Biohyalux Deep Dermis |
ฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีโมเลกุลใหญ่ ใช้ฉีดเติมเต็มผิวชั้นลึก เหมาะสำหรับเสริมคางปรับรูปหน้า |
9-12 เดือน |
6,900 / 1 CC |
หน้าเรียวสวยด้วยการ ฉีดฟิลเลอร์คางเพียง 1 CC จริงไหม ?
ตอบได้ว่า ใช่ค่ะ ฉีดฟิลเลอร์คางเพียง 1 CC สามารถหน้าเรียวสวยขึ้นได้จริง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิมของและปัญหาที่ต้องการแก้ไขด้วยฟิลเลอร์คางของแต่ละคน
หากมีรูปหน้ากลม คางสั้น คางถอย คางไม่เท่ากัน ฟิลเลอร์คางเพียง 1 CC สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวยาวขึ้นได้ โดยแพทย์จะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในบริเวณคางเพื่อเพิ่มความยาวและยกคางขึ้น ทำให้ใบหน้าดูสมส่วนและเรียวสวยขึ้น
แต่หากคนไข้มีปัญหาคางตัด คางบุ๋ม ใบหน้าเหลี่ยม หรือต้องการเพิ่มความยาวคางให้มากกว่า 1 เซนติเมตร การผ่าตัดเสริมซิลิโคนคาง อาจเป็นวิธีที่ตอบโจทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
นอกจากนี้ แพทย์ยังต้องพิจารณาถึงเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ด้วย โดยแพทย์จะฉีดฟิลเลอร์ในชั้นที่เหมาะสม เพื่อให้ฟิลเลอร์กระจายตัวได้ดีและดูเป็นธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์คาง ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกี่เดือน ?
ฉีดฟิลเลอร์คาง อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่
- ยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมีกระบวนการผลิตและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก คงตัวสูง อยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่
- ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ ฟิลเลอร์ที่ใช้มาก อยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ที่ใช้น้อย
- ตำแหน่งที่ฉีด ฟิลเลอร์ที่ฉีดบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย เช่น ร่องแก้ม ริมฝีปาก อยู่ได้นานน้อยกว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวน้อย เช่น คาง
- ระดับการย่อยสลาย Hyaluronic acid ของร่างกาย แต่ละคนมีระดับการย่อยสลาย Hyaluronic acid ของร่างกายไม่เท่ากัน คนที่มีระดับการย่อยสลาย Hyaluronic acid สูง ฟิลเลอร์จะสลายเร็วกว่าคนที่มีระดับการย่อยสลาย Hyaluronic acid ต่ำ
- การดูแลหลังฉีด การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หลังฉีดฟิลเลอร์ จะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น เช่น หลีกเลี่ยงการนวดบริเวณที่ฉีด หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความร้อนสูง
หากพบว่าฟิลเลอร์คางที่ฉีดไปเริ่มสลาย คนไข้สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อฉีดฟิลเลอร์เพิ่มได้
ฉีดฟิลเลอร์คางปรับโหงวเฮ้ง เสริมดวง
การฉีดฟิลเลอร์คางกับโหงวเฮ้งสัมพันธ์กันในแง่ที่ว่า การฉีดฟิลเลอร์สามารถใช้ปรับรูปหน้าให้เป็นไปตามหลักโหงวเฮ้งได้ โดยการฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยเพิ่มความยาว ยกคางขึ้น หรือปรับรูปทรงคางให้เรียวสวยขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมในเรื่องของความมั่งคั่ง ทรัพย์สิน อำนาจ และชื่อเสียง ตามหลักโหงวเฮ้ง
โหงวเฮ้งคางที่ดี ควรมีลักษณะดังนี้
- ยาว แหลม ตั้งตรง และไม่เบี้ยว คางที่ดีจะช่วยเสริมในเรื่องของความมั่งคั่ง ทรัพย์สิน อำนาจ และชื่อเสียง
- มีเนื้อคางเต็ม ไม่บุ๋ม คางที่มีเนื้อเต็มจะช่วยเสริมในเรื่องของความเมตตา ความมั่นคง และความร่ำรวย
- โค้งมนเข้ารูปกับรูปหน้า คางที่มีรูปทรงโค้งมนเข้ารูปกับรูปหน้าจะช่วยเสริมในเรื่องของความอ่อนโยน เสน่ห์ และโชคลาภ
ดังนั้น หากใครที่มีคางลักษณะไม่เป็นไปตามหลักโหงวเฮ้ง เช่น คางสั้น คางถอย คางเบี้ยว ก็สามารถพิจารณาฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปคางให้เหมาะสมตามหลักโหงวเฮ้งได้ ซึ่งอาจช่วยเสริมดวงชะตาชีวิตให้ดีขึ้นได้
หากท่านกำลังพิจารณาฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อปรับโหงวเฮ้ง ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์มากประสบการณ์อย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
ฉีดฟิลเลอร์คาง แล้วหน้าเปลี่ยนไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์คาง สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยขึ้นได้ค่ะ โดยฟิลเลอร์จะเข้าไปเติมเต็มเนื้อบริเวณคาง ทำให้คางดูยาวขึ้น ยื่นออกมามากขึ้น หรือปรับรูปทรงคางให้เรียวสวยขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้าดูสมส่วนมากขึ้น
ดังนั้น หากมีปัญหาคางสั้น คางถอย คางบุ๋ม การฉีดฟิลเลอร์คางสามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ และทำให้ใบหน้าดูเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
ทรงคางสวย
ทรงคางสวย หมายถึง ทรงคางที่มีความสมส่วนกับใบหน้า โดยคางที่ดีควรมีลักษณะดังนี้
- ความยาวของคางที่เหมาะสม ควรอยู่ที่ประมาณ 1/3 ของความยาวใบหน้าทั้งหมด (วัดจากหน้าผากถึงคาง) หากคางสั้นกว่า 1/3 ของความยาวใบหน้าทั้งหมด จะถือว่าคางสั้น ส่งผลให้ใบหน้าดูสั้นลงและกว้างขึ้น
- ความโค้งของคาง คางที่ดีควรมีความโค้งที่พอดี ไม่โค้งมากเกินไปหรือน้อยเกินไป หากคางโค้งมากเกินไปจะดูไม่ธรรมชาติ และหากคางโค้งน้อยเกินไปจะดูแข็ง
- ความกว้างของคาง ควรมีความสมส่วนกับใบหน้า โดยคางที่กว้างเกินไปจะดูไม่สมส่วน และคางที่แคบเกินไปจะดูไม่แข็งแรง
นอกจากนี้ ทรงคางที่สวยงามยังขึ้นอยู่กับลักษณะของใบหน้าโดยรวมอีกด้วย เช่น ใบหน้ากลม ใบหน้าเหลี่ยม ใบหน้ารูปไข่ โดยทั่วไปแล้ว ใบหน้ากลมควรเสริมคางให้ยาวขึ้น เพื่อให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น ส่วนใบหน้าเหลี่ยมควรเสริมคางให้โค้งมนขึ้น เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนหวานขึ้น
ทรงคางสวยที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ได้แก่
- ทรงคางวีเชฟ เป็นทรงคางที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากช่วยให้ใบหน้าดูเรียวยาว หน้าเด็ก และดูมีมิติมากขึ้น
- ทรงคางรูปไข่ เป็นทรงคางที่มีลักษณะโค้งมน สมส่วนกับใบหน้าโดยรวม
- ทรงคางเหลี่ยมมน เป็นทรงคางที่มีลักษณะเหลี่ยมแต่มีความโค้งมนเล็กน้อย ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนหวานและดูมีเสน่ห์มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การเลือกทรงคางควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ได้ทรงคางที่เหมาะกับรูปหน้าและบุคลิกภาพของแต่ละบุคคลมากที่สุด
ทรงคางไม่สวย
ทรงคางที่ไม่สวย หมายถึง ทรงคางที่มีลักษณะไม่สมส่วนกับใบหน้า โดยคางที่ไม่สวยอาจมีลักษณะดังนี้
- คางสั้น หมายถึง คางที่สั้นกว่าปกติ โดยปกติแล้วความยาวของคางที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 1/3 ของความยาวใบหน้าทั้งหมด (วัดจากหน้าผากถึงคาง) หากคางสั้นกว่า 1/3 ของความยาวใบหน้าทั้งหมด จะถือว่าคางสั้น ส่งผลให้ใบหน้าดูสั้นลงและกว้างขึ้น
- คางตัดหมายถึง คางที่มีปลายคางตัดเฉียงลงอย่างเห็นได้ชัด คางตัดมักทำให้ใบหน้าดูแข็งและดุดัน
- คางยื่น หมายถึง คางที่ยื่นออกมาจากใบหน้ามากเกินไป คางยื่นมักทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วนและดูไม่เป็นธรรมชาติ
- คางบุ๋ม หมายถึง คางที่ยุบตัวลงตามอายุหรือปัจจัยอื่น ๆ คางบุ๋มมักทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วนและดูมีอายุ
นอกจากนี้ คางที่ไม่สวยอาจเกิดจากความผิดปกติของกระดูกคาง เช่น คางเบี้ยว คางหัก เป็นต้น ซึ่งอาจส่งผลต่อรูปหน้าและบุคลิกภาพของแต่ละบุคคลได้
หากต้องการแก้ไขคางที่ไม่สวย สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การฉีดฟิลเลอร์คาง การผ่าตัดเสริมคาง ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ผู้มากประสบการณ์เพื่อพิจารณาวิธีที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
หน้าเรียว หมายถึงอะไร ? แบบไหนสวย
หน้าเรียว หมายถึง ใบหน้าที่มีสัดส่วนสมส่วน หน้าผากไม่กว้างเกินไป แก้มไม่เต็มจนเกินไป และคางที่ยาวพอดี โดยทั่วไปแล้ว ใบหน้าเรียวจะมีลักษณะดังนี้
- ใบหน้ามีความกว้างที่สมส่วน โดยวัดความกว้างของใบหน้าจากหน้าผากถึงโหนกแก้ม และความกว้างของใบหน้าจากโหนกแก้มถึงคาง ควรมีความใกล้เคียงกัน
- ความกว้างของแก้มที่พอดี ไม่กว้างจนเกินไป หากแก้มกว้างเกินไปจะทำให้ใบหน้าดูกลม
- ความยาวของคางอยู่ที่ประมาณ 1/3 ของความยาวใบหน้าทั้งหมด (วัดจากหน้าผากถึงคาง) หากคางสั้นกว่า 1/3 ของความยาวใบหน้าทั้งหมด จะถือว่าคางสั้น ส่งผลให้ใบหน้าดูสั้นลงและกว้างขึ้น
นอกจากนี้ หน้าเรียวยังขึ้นอยู่กับลักษณะของใบหน้าโดยรวมอีกด้วย เช่น ใบหน้ากลม ใบหน้าเหลี่ยม ใบหน้ารูปไข่
โดยทั่วไปแล้ว ใบหน้ากลมควรเสริมคางให้ยาวขึ้น เพื่อให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น ส่วนใบหน้าเหลี่ยมควรเสริมคางให้โค้งมนขึ้น เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนหวานขึ้น
ทั้งนี้ หน้าเรียวแบบไหนสวยนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล บางคนอาจชอบหน้าเรียวแบบวีเชฟที่มีคางแหลมยาว บางคนอาจชอบหน้าเรียวแบบหน้ารูปไข่ที่มีคางมน ส่วนบางคนอาจชอบหน้าเรียวแบบหน้าเหลี่ยมมนที่มีคางโค้งมน
อย่างไรก็ตาม หน้าเรียวที่สวยควรมีความสมส่วนกับใบหน้าโดยรวม ไม่เรียวจนเกินไปหรือเหลี่ยมจนเกินไป เพื่อให้ใบหน้าดูสวยงามและดูเป็นธรรมชาติ
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คาง ให้คางไม่เป็นก้อน
การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นกระบวนการที่ไม่ซับซ้อน แต่การเตรียมตัวก่อนการฉีดและการดูแลตัวเองหลังการฉีดเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง
ก่อนการฉีด
- หลีกเลี่ยงยาและอาหารเสริมบางชนิด: หลีกเลี่ยงยาที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัวได้ง่าย เช่น แอสไพริน หรือวิตามิน E อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด
- ไม่ดื่มแอลกอฮอล์: งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด
- การดูแลผิวหน้า: หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์ผิวหน้าหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงกับผิวก่อนการฉีด
หลังการฉีด
- หลีกเลี่ยงการแตะต้องบริเวณที่ฉีด: หลีกเลี่ยงการนวดหรือแตะต้องบริเวณที่ฉีดเพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่
- งดการออกกำลังกายชั่วคราว: งดการออกกำลังกายหนักๆ อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงหลังการฉีด
- ดูแลตามคำแนะนำของแพทย์: ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
- การดูแลทั่วไป: หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนสูง เช่น การอาบน้ำร้อนหรือการใช้ซาวน่า และดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ผิวดูสดชื่น
การทำตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้ได้รับประสบการณ์การที่ดีในการฉีดฟิลเลอร์คาง และช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้นั้นมีความคงทนและสวยงามตามที่คาดหวังไว้ได้ค่ะ
สรุป
ฉีดฟิลเลอร์คาง ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่มีคางสั้นและต้องการให้ใบหน้าดูเรียวสวยขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด การฉีดฟิลเลอร์คาง สามารถช่วยเพิ่มความยาวและให้คางดูเรียวขึ้น ทำให้ใบหน้าดูสมดุลและมีมิติมากขึ้น ได้อย่างรวดเร็ว ผลข้างเคียงน้อย อยู่ได้นาน 1-2 ปี
ทั้งนี้ ก่อนการฉีด ควรหลีกเลี่ยงยาบางชนิด งดดื่มแอลกอฮอล์ และอย่าลืมเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการแตะต้องบริเวณที่ฉีด และงดการออกกำลังกายหนัก ๆ หลังการฉีดฟิลเลอร์คาง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หน้าเรียวสวย มีความปลอดภัย ตามที่ใจปรารถนาค่ะ