ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคา

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคา CC ละเท่าไหร่ ? ฉีดยี่ห้อไหนราคาคุ้มค่า อยู่ได้นานสูงสุด!

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคา

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา นอกจากการเลือกแพทย์ เลือกคลินิก เลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีแล้ว ยังต้องเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาคุ้มค่าและเหมาะสมด้วยค่ะ 

สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และยังมีข้อสงสัย เกี่ยวกับราคาค่าใช้จ่าย Thaibestbeauty ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ ฉีดฟิลเลอร์ราคาเท่าไหร่ ? ควรใช้ยี่ห้อไหนบ้าง แต่ละยี่ห้อราคาเท่าไหร่ ควรใช้กี่ CC อยู่ได้นานแค่ไหน วิธีดูแลตัวเองหลังทำ และข้อพึงระวังก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาถูก เอาไว้ให้แล้ว 

สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคา


ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไหร่ ?

โดยทั่วไป การฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน จะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเริ่มต้นที่ 9,900.- บาทต่อ 1 ซีซี ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้ ปริมาณ CC ที่ใช้ และสถานที่ฉีด โดยในการเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแนะนำให้พิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น 

  1. ปัญหาใต้ตา ว่าต้องการแก้ไขปัญหาใด ? เช่น ใต้ตาลึก มีร่องใต้ตา ใต้ตาคล้ำ มีถุงใต้ตา
  2. งบประมาณ ว่าสามารถจ่ายได้เท่าไร ?

นอกจากนี้ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อและคลินิกที่ฉีดให้ดีก่อนตัดสินใจฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย

คลิกอ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ?

ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 

ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัญหาใต้ตาและปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีด แต่โดยทั่วไปแล้ว จะเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ คือ ใต้ตาจะดูเต็มขึ้น ริ้วรอยและถุงใต้ตาลดลง แต่อาจยังมีอาการบวมช้ำอยู่บ้างจากฟิลเลอร์และเข็ม ซึ่งจะค่อย ๆ หายไปเองภายใน 5-7 วัน

ผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังทำ เมื่ออาการบวมช้ำหายไปหมดแล้ว ใต้ตาจะดูเต็มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ใบหน้าดูสดใส อ่อนเยาว์ขึ้น

นอกจากนี้ ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือนถึง 2 ปี หลังจากนั้นฟิลเลอร์จะเริ่มสลายตัวตามธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ได้อาจลดลงเล็กน้อย สามารถกลับมาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาซ้ำได้อีกหากต้องการคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานมากขึ้น 


ใช้ฟิลเลอร์อเมริกา ยี่ห้อ Juvederm ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไหร่ ?

ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Juvederm ประเทศสหรัฐอเมริกา

  • Juvederm Voluma  ราคา 14 ,000.- บาทต่อซีซี
  • Juvederm Volite     ราคา 12,000.- บาทต่อซีซี
  • Juvederm Volux     ราคา 18,000.- บาทต่อซีซี
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา Juvederm ราคา

ข้อดี ฟิลเลอร์อเมริกา ยี่ห้อ Juvederm 

  • Juvederm เป็นฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) สัญชาติอเมริกา ผลิตโดยบริษัท Allergan  
  • ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย (อย.) และสหรัฐอเมริกา (USFDA)
  • อยู่ได้นาน 8-24 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นและบริเวณที่ฉีด
  • มีโมเลกุล HA ที่มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับได้ดี และบวมน้ำน้อย
  • ห้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ กระจายตัวได้ดี ไม่จับตัวเป็นก้อน หน้าไม่แข็งโป๊ก

ใช้ฟิลเลอร์สวีเดน ยี่ห้อ Restylane  ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไหร่ ?

ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Restylane ประเทศสวีเดน

  • Restylane Defyne           ราคา 14,000.- บาทต่อซีซี 
  • Restylane Vital Light       ราคา 12,000.-บาทต่อซีซี
  • Restylane Vital               ราคา 14,000.- บาทต่อซีซี
  • Restylane Perlane lyft     ราคา 12,000.- บาทต่อซีซี
  • Restylane Classic           ราคา 14,000.- บาทต่อซีซี
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane ราคา

ข้อดี ฟิลเลอร์สวีเดน ยี่ห้อ Restylane 

  • Restylane เป็นฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) สัญชาติสวีเดน ผลิตโดยบริษัท Galderma ซึ่งเป็นบริษัทยาชั้นนำระดับโลก
  • ได้มาตรฐานและผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกา ไทย และอีกหลายประเทศทั่วโลก 
  • มีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับเนื้อเยื่อผิวในร่างกายตามธรรมชาติ จึงให้ผลลัพธ์ที่เนียนเรียบเป็นธรรมชาติ 
  • เห็นผลลัพธ์ทันที ฟิลเลอร์ Restylane จะค่อย ๆ กระจายตัวและเติมเต็มร่องลึก ริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า ทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังการฉีด
  • อยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและบริเวณที่ฉีด

ใช้ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์ ยี่ห้อ Belotero ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไหร่ ?

ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Belotero ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

  • Belotero Volume  ราคา 11,000.- บาทต่อซีซี
  • Belotero Revive   ราคา 14,000.- บาทต่อซีซี
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา Belotero ราคา

ข้อดี ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์ ยี่ห้อ Belotero

  • Belotero เป็นฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ผลิตโดยบริษัท Merz Aesthetics
  • ได้มาตรฐานและผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกา ยุโรป และไทย
  • ใช้ฉีดเก็บรายละเอียดได้ดี ให้ผลลัพธ์ใต้ตาที่เนียนเรียบ ดูเป็นธรรมชาติ
  • สามารถใช้ฉีดแก้ปัญหาใต้ตาลึก หน้าตอบ จากสาเหตุการทรุดตัวของกระดูก และสามารถฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึกได้ 
  • เด่นในเรื่องของการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ฉ่ำวาว ผิวเนียนนุ่ม หน้าเด้งกระชับ

ใช้ฟิลเลอร์เกาหลี ยี่ห้อ Flore ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไหร่ ?

ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Flore ประเทศเกาหลี

  • Flore AQUA-S ราคา 9,900.- บาทต่อซีซี
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา Flore ราคา

ข้อดี ฟิลเลอร์เกาหลี ยี่ห้อ Flore

  • Flore เป็นฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid สัญชาติเกาหลีใต้ ผลิตโดยบริษัท บอน-ชอง จำกัด 
  • ได้มาตรฐานและผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ของประเทศไทย เกาหลี ยุโรป และอเมริกา
  • เนื้อฟิลเลอร์แบบแข็งและอ่อนอยู่ในเนื้อเดียวกัน ทำให้ฉีดแล้วปั้นทรงง่าย ขึ้นรูปได้ดี  
  • หลังทำเห็นผลลัพธ์ทันที ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้หน้าได้เลย
  • ราคาย่อมเยา 
  • สลายช้า และอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น อยู่ได้นานแค่ไหน ? 

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น จะอยู่ได้นานแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ชนิดของฟิลเลอร์ โมเลกุลของฟิลเลอร์ เทคนิคการฉีด และการดูแลหลังการฉีด โดยทั่วไปแล้ว ฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน ดังนี้

ระยะเวลาฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm

  • Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Juvederm Volite อยู่ได้นาน  8-12 เดือน
  • Juvederm Volux อยู่ได้นาน  18-24 เดือน

ระยะเวลาฟิลเลอร์ยี่ห้อ  Restylane

  • Restylane Defyne อยู่ได้นาน  18 เดือน
  • Restylane Vital Light อยู่ได้นาน  6-12 เดือน
  • Restylane Vital อยู่ได้นาน  12 เดือน
  • Restylane Perlane lyft อยู่ได้นาน  12 เดือน
  • Restylane Classic อยู่ได้นาน  12 เดือน

ระยะเวลาฟิลเลอร์ยี่ห้อ  Belotero

  • Belotero Volume อยู่ได้นาน  18 เดือน
  • Belotero Revive อยู่ได้นาน  6-9 เดือน

ระยะเวลาฟิลเลอร์ยี่ห้อ  Flore

  • Flore AQUA-S อยู่ได้นาน  6 เดือน

ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน รุ่นไหน อยู่ได้นานที่สุด ?

จากข้อมูลข้างต้น ฟิลเลอร์ Juvederm Volux จะเป็นรุ่นที่อยู่ได้นานที่สุด โดยสามารถอยู่ได้นานประมาณ 18-24 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน การดูแลหลังการฉีด และการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

สำหรับปัญหาใต้ตา ฟิลเลอร์ Juvederm Volux เหมาะสำหรับผู้ที่มีใต้ตาลึกมาก หรือต้องการยกกระชับใต้ตา เนื่องจากฟิลเลอร์ Juvederm Volux มีโมเลกุลขนาดใหญ่ มีความยืดหยุ่นสูง จึงสามารถช่วยเติมเต็มใต้ตาลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคงรูปได้ดี ช่วยให้ใต้ตาดูตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

หากใครต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน เพื่อแก้ปัญหาใต้ตา การฉีดฟิลเลอร์ Juvederm Volux อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ก่อนตัดสินใจฉีด เพื่อประเมินสภาพผิวและปัญหาใต้ตาว่าเหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอร์รุ่นนี้หรือไม่ด้วยค่ะ 


ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ CC ? ถึงจะสวย ดูเป็นธรรมชาติ 

ปริมาณฟิลเลอร์ใต้ตาที่ใช้ในการฉีดจะขึ้นอยู่กับปัญหาใต้ตาของแต่ละบุคคล โดยปกติจะใช้ประมาณ 1 – 2 ซีซีต่อข้าง ในกรณีที่มีปัญหาใต้ตาลึกมาก อาจต้องใช้มากกว่า 2 ซีซี

  • สำหรับปัญหาใต้ตาลึกเล็กน้อย อาจใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1 ซีซีต่อข้าง จะช่วยให้ใต้ตาดูตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น
  • สำหรับปัญหาใต้ตาลึกปานกลาง อาจใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1.5 – 2 ซีซีต่อข้าง จะช่วยให้ใต้ตาดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
  • สำหรับปัญหาใต้ตาลึกมาก อาจใช้ฟิลเลอร์มากกว่า 2 ซีซีต่อข้าง จะช่วยให้ใต้ตาดูตื้นขึ้นอย่างสมบูรณ์ ทำให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดอาจแตกต่างกันไปตามเทคนิคการฉีดของแพทย์ หากไม่แน่ใจว่าความลึกใต้ตาของตัวเองอยู่ในระดับไหน สามารถเข้าไปปรึกษาแพทย์ก่อนได้ แพทย์จะประเมินปัญหาใต้ตาของแต่ละบุคคลอย่างละเอียด และพิจารณาปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม


วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสแกะ เกา กดหรือนวดบริเวณใต้ตา เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว และอักเสบ บวมไม่หาย 
  • หลังทำสามารถล้างหน้า โดนน้ำได้ไม่เกิน 15 นาที โดยไม่ขัดหรือนวดหน้าแรง ๆ
  • หลีกเลี่ยงการออกแดดและอยู่แต่ในที่อากาศเย็น ๆ เป็นเวลา 3-4 วันแรก เพื่อลดอาการบวมช้ำ
  • หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่อาจทำให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เกิดการอักเสบ 2 สัปดาห์ เช่น การออกกำลังกาย ขัดผิว ซาวน่า ทำทรีทเม้นต์
  • ทานยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง หากมีอาการปวดมาก
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์ดูดซึมได้ดียิ่งขึ้น
  • หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวด บวม แดง คัน มากผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์

นอกจากนี้ ควรปฏิบัติดังนี้

  • งดทาครีมและแต่งหน้าบริเวณรอยเข็มหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 1 วัน
  • หลีกเลี่ยงการทานอาหารดิบ อาหารหมักดอง เพราะจะกระตุ้นในเกิดการอักเสบได้
  • งดสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอล์ 
  • งดทานอาหารรสจัด เช่น อาหารรสเผ็ดจัด เค็มจัด หวานจัด ช่วง 3-7 วันแรกหลังฉีด

ข้อควรระวัง ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาถูก อาจเป็นฟิลเลอร์ปลอม!

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาถูก

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาถูกอาจเป็นฟิลเลอร์ปลอมได้ เนื่องจากฟิลเลอร์ปลอมมักมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าและทำมาจากสารอันตราย เช่น ซิลิโคน พาราฟิน หรือสารอื่น ๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ในขณะที่ฟิลเลอร์แท้จะผลิตจากสาร Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงมีราคาค่อนข้างสูง ทำให้ฟิลเลอร์ราคาถูก มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นฟิลเลอร์ปลอมได้

นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ที่ราคาถูกมาก ๆ ยังอาจเป็นฟิลเลอร์หิ้ว ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่านอย. เนื่องจากมีการลักลอบนำเข้าโดยไม่เสียภาษี ส่งผลให้มีต้นทุนที่ต่ำลง หากฉีดอาจไม่เห็นผลลัพธ์ที่ดีเทียบเท่ากับฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. เนื่องจากไม่ได้ผ่านการขนส่งและจัดเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม ส่งผลให้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพและอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงอันตรายต่อผู้ฉีดได้

ดังนั้น หากต้องการฉีดฟิลเลอร์ ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านอย.เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ 

วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ว่าผ่านอย.หรือไม่ 

  • ต้องมีเลขทะเบียนตำรับยา อย.
  • ต้องมีชื่อและที่อยู่ของผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า
  • ต้องมีวันหมดอายุ
  • ต้องมีวิธีใช้และคำเตือน

หากพบฟิลเลอร์ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ ควรหลีกเลี่ยงการฉีดโดยเด็ดขาด

  • ฟิลเลอร์ที่ไม่มีฉลากผลิตภัณฑ์
  • ฟิลเลอร์ที่มีฉลากไม่ชัดเจนหรืออ่านไม่ออก
  • ฟิลเลอร์ที่มีเลขทะเบียนตำรับยาปลอม
  • ฟิลเลอร์ที่มีราคาต่ำกว่าปกติมาก

วิธีเช็กคลินิกก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ไม่ควรพลาด!

  1. ตรวจสอบใบอนุญาตประกอบกิจการ คลินิกที่ได้มาตรฐานจะต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข สามารถสังเกตได้จากป้ายชื่อและเลขใบอนุญาต 11 หลัก ที่ติดไว้หน้าคลินิก 
  2. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีสถานที่สะอาด ปลอดภัย มีอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัย มีบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการอบรมอย่างถูกต้อง และปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในวิชาชีพเวชกรรม
  3. เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับแพทย์ประสบการณ์สูง ที่มีความรู้ในการฉีดฟิลเลอร์เป็นอย่างดี สามารถใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและตรงตามความต้องการ
  4. สอบถามราคาและเงื่อนไขการให้บริการ ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์จากคลินิกต่าง ๆ เพื่อเปรียบเทียบและเลือกคลินิกที่ราคาเหมาะสมกับคุณภาพและบริการ  
  5. อ่านรีวิวจากผู้ใช้บริการ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยอ่านรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง เพื่อดูว่าคลินิกนั้น ๆ มีมาตรฐานการให้บริการอย่างไร ผลลัพธ์ที่ได้เป็นอย่างไร

สรุป 

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 9,900.-/ 1 cc ถือว่ามีราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ เพราะช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างหลากหลาย เห็นผลเร็ว ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น ทำ 1 ครั้งอยู่ได้นานตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ปี 

สำหรับใครที่ต้องการให้ผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้ยาวนานคุ้มค่ามากขึ้น สิ่งที่ควรให้ความสำคัญแต่แรกเริ่มคือการเลือกทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ ทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และดูแลตัวเองหลังทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างต่อเนื่องค่ะ

Similar Posts