ปากสวยไม่ยาก! แค่ฉีดฟิลเลอร์ปาก ปรับทรงปากให้อวบอิ่ม ดูเซ็กซี่แบบธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ปาก
หากกำลังมองหาวิธีเพิ่มเสน่ห์หรือปรับลุคให้กับใบหน้า การฉีดฟิลเลอร์ปากอาจเป็นตัวช่วยที่หลายคนมองหาอยู่ เพราะเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว และเห็นผลลัพธ์ได้ทันที เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปาก หรือต้องการปรับทรงปากให้สวยงาม แต่ก่อนไปทำควรรู้อะไรบ้าง ?
ในบทความนี้ Thaibestbeauty มีข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ปากมาแนะนำ ว่าคืออะไร ? ช่วยอะไร ? ฉีดทรงไหนได้บ้าง ใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ใช้กี่ CC มีขั้นตอนการฉีดอย่างไร เจ็บไหม ฟิลเลอร์ปากเป็นก้อนเกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไร เลือกทำที่ไหนดี เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก
ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร ? ทำไมถึงควรทำ
การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือ การฉีดสารเติมเต็ม (filler) เข้าไปในบริเวณริมฝีปาก เพื่อปรับรูปทรงปากให้อวบอิ่ม ชุ่มชื้น ดูมีสุขภาพดี แก้ปัญหาปากบาง ปากไม่เท่ากัน ปากคล้ำ มีริ้วรอย หรือปากแห้งแตก สารเติมเต็มที่นิยมใช้ฉีดปาก ได้แก่ ไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ทำให้ปากดูอวบอิ่มขึ้น และสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ
เหตุผลที่ควรฉีดฟิลเลอร์ปาก
- เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ช่วยให้ริมฝีปากอวบอิ่ม น่าจุ๊บ เปลี่ยนลุคให้ดูสวยขึ้นได้ทันทีหลังฉีด
- ปลอดภัย ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดปากเป็นสารที่ร่างกายผลิตขึ้นตามธรรมชาติ จึงปลอดภัย ไม่ตกค้าง
- ไม่ต้องพักฟื้น ทำได้รวดเร็ว ใช้เวลาทำไม่นาน ไม่เกิดบาดแผล
- ราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งริมฝีปาก การฉีดฟิลเลอร์ราคาถูกกว่า
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยเรื่องอะไร ? ฉีดแล้วทำให้สวยขึ้นจริงไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถช่วยทำให้ริมฝีปากสวยขึ้นได้ ดังนี้
- ทำให้ริมฝีปากอวบอิ่ม เหมาะกับผู้ที่ริมฝีปากบาง ต้องการเติมเต็มให้ริมฝีปากดูอิ่มเอิบ น่าจุ๊บ
- ปรับรูปทรงปาก เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากไม่เท่ากัน ริมฝีปากไม่มีทรง หรือต้องการปรับทรงปากให้เข้ากับใบหน้ามากขึ้น
- เติมเต็มร่องปาก เหมาะกับผู้ที่ริมฝีปากแห้ง แตกเป็นร่อง ช่วยให้ริมฝีปากดูเรียบเนียน
- ยกมุมปาก เหมาะกับผู้ที่มุมปากตก ช่วยให้ใบหน้าดูสดใส ยิ้มแย้ม
ภาพรีวิว ก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
ขอบคุณรีวิวจาก V Square Clinic
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงไหนได้บ้าง ?
การฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถปรับทรงปากได้หลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้ว ทรงปากที่นิยมฉีด ได้แก่
- ทรงปากกระจับ : เป็นทรงปากที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเอเชียและประเทศไทย เพราะเป็นทรงปากที่ช่วยให้ใบหน้าดูหวานและอ่อนเยาว์ขึ้น โดยปากทรงนี้มีลักษณะเป็นเหมือนกระจับหรือทรงโค้งขึ้นเหมือนคันธนู และมีส่วนนูนตรงกลาง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ปากบนบางกว่าปากล่างเล็กน้อย สัดส่วนระหว่างริมฝีปากบนและล่างอยู่ที่ 1:1.6-1.8
- ทรงปากสายฝอ : เป็นทรงปากที่ได้รับความนิยมอย่างมากในฝั่งตะวันตก เพราะเป็นทรงปากที่ช่วยให้ใบหน้าดูเซ็กซี่และน่าดึงดูด โดยปากทรงนี้จะมีลักษณะอวบอิ่ม ริมฝีปากบนและล่างมีความหนาใกล้เคียงกัน มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย
- ทรงปากเกาหลี : เป็นทรงปากที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเกาหลีใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะเป็นทรงปากที่ช่วยให้ใบหน้าดูหวาน ละมุน น่ารักขึ้น ทรงปากนี้จะมีลักษณะคล้ายกับทรงปากกระจับ แต่มุมปากจะยกขึ้นมากกว่าเล็กน้อย
- ทรงปากธรรมชาติ : เป็นทรงปากที่ช่วยให้ใบหน้าดูสวยและดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับทุกรูปหน้าและทุกสไตล์การแต่งหน้า โดยรูปทรงปากนี้จะมีลักษณะใกล้เคียงกับริมฝีปากเดิมมากที่สุด ริมฝีปากบนและล่างมีความหนาต่างกันเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ขอบปากเรียบเนียน ไม่มีริ้วรอย
นอกจากนี้ ยังสามารถฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อแก้ไขปัญหาปากบาง ปากไม่สมมาตร ปากแห้งเป็นร่อง ปากคล้ำ หรือปากมีริ้วรอยได้อีกด้วย
สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกทรงปาก
- โครงสร้างใบหน้าและรูปทรงปากเดิม เพื่อให้ได้ทรงปากที่เข้ากับใบหน้ามากที่สุด
- ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อขอคำแนะนำในการเลือกทรงปากที่เหมาะสม
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน รุ่นไหนดี ?
สำหรับยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่ได้มาตรฐานผ่าน อย.จะมีทั้งหมด 9 รุ่นที่แพทย์นิยมใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ปาก ดังนี้
| ยี่ห้อ/รุ่น ฟิลเลอร์ปาก | คุณสมบัติ | เหมาะฉีด |
|---|---|---|
| Juvederm Ultra Plus ฟิลเลอร์อเมริกา | เนื้อนิ่ม และฟูมาก เหมาะกับคนที่ต้องการปากอวบอิ่มแบบฝรั่ง | ทรงปากอวบอิ่ม สายฝอ |
| Juvederm Voluma ฟิลเลอร์อเมริกา | เนื้อแน่น ฟูปานกลาง อยู่ได้นานที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปากอวบอิ่ม อยู่ได้นาน | ทรงปากอวบอิ่ม สายฝอ |
| Belotero Volume ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์ | เนื้อแน่น อยู่ทรง ช่วยเพิ่ม Volume ให้ปากได้ดี เหมาะสำหรับทรงปากสายฝอ | ทรงปากอวบอิ่ม สายฝอ |
| Restylane Kysse ฟิลเลอร์สวีเดน | เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว สร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจนให้ความชุ่มชื้นและความอวบอิ่ม ออกแบบมาสำหรับใช้เติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ | ทรงปากอวบอิ่ม สายฝอ |
| Juvederm Volift ฟิลเลอร์อเมริกา | เนื้อนิ่ม มีความละเอียด และยืดหยุ่นสูง ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน | ทรงปากกระจับ ธรรมชาติ |
| Juvederm Volite ฟิลเลอร์อเมริกา | เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ผิวปากชุ่มชื้น อวบอิ่มเล็กน้อย | เน้นปากชุ่มชื้น กลบร่องปาก |
| Restylane Vital Light ฟิลเลอร์สวีเดน | เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น แก้ไขริมฝีปากแห้ง โดยไม่ต้องเพิ่มความหนามาก | เน้นปากชุ่มชื้น กลบร่องปาก |
| Restylane Volyme ฟิลเลอร์สวีเดน | เนื้อนิ่มปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำ เหมาะฉีดมุมปาก ดูเป็นธรรมชาติไม่เป็นก้อน | ทรงปากกระจับ ธรรมชาติ |
| Restylane Refyne ฟิลเลอร์สวีเดน | เนื้อเจลมีลักษณะยืดหยุ่น สามารถเติมเต็มให้ปากอวบอิ่ม เป็นธรรมชาติ | ทรงปากกระจับ ธรรมชาติ |
อย่างไรก็ตาม การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ในการฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรให้แพทย์เป็นผู้แนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะสมตามความต้องการและสภาพผิวของตัวเอง จะได้ผลลัพธ์ออกมาสวย ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ใช้ปริมาณกี่ CC ?
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดปากจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 CC ในเคสที่ต้องการปรับรูปทรงปากเล็กน้อย เช่น เติมเต็มริมฝีปากด้านบนให้เต็มขึ้น หรือปรับมุมปากให้เชิดขึ้น อาจใช้ฟิลเลอร์เพียง 1 CC ก็เพียงพอแล้ว แต่ในเคสที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มปากให้อวบอิ่มมาก ๆ อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ 2 CC ขึ้นไป
แพทย์จะเป็นผู้ประเมินปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ลักษณะของปากเดิม ความหนาของริมฝีปาก ความหนาของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง เป็นต้น
ฉีดฟิลเลอร์ปาก มีขั้นตอนอย่างไร ?
การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นหัตถการที่ไม่ซับซ้อน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที สามารถทำได้ในคลินิกหรือโรงพยาบาลกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก มีดังนี้
- ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบกาณ์
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินสภาพริมฝีปาก เลือกทรงปากที่เหมาะสม และแจ้งประวัติการแพ้ยาหรือโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบ
- เตรียมตัวก่อนฉีด
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรงดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ งดทานยาที่มีผลต่อเลือด เช่น แอสไพริน และยาต้านการอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) อย่างน้อย 7 วัน
- ฉีดยาชาหรือแปะยาชา ขึ้นอยู่กับบริการของแต่ละคลินิก
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก จะมีการฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณริมฝีปาก เพื่อให้รู้สึกสบายตัวระหว่างการฉีด
- ฉีดฟิลเลอร์ปาก
แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในบริเวณริมฝีปากตามรูปทรงที่ต้องการ โดยจะมีผู้ช่วยแพทย์คอยประคบน้ำแข็งเพื่อบรรเทาความเจ็บในระหว่างฉีด
- ดูผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
แพทย์จะให้คนไข้ประเมินทรงปากหลังฉีดเสร็จด้วยการส่องกระจก และสอบถามความพึงพอใจของคนไข้หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เมื่อคนไข้พอใจแล้ว สามารถกลับบ้านไปใช้ชีวตได้ตามปกติ และรอนัดติดตามผลในอีก 2 สัปดาห์
ฉีดฟิลเลอร์ปาก เจ็บไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์ปากไม่เจ็บอย่างที่ใครหลาย ๆ คนคิด แพทย์จะฉีดยาชาหรือแปะยาชาเฉพาะที่ก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้คนไข้รู้สึกสบายตัวมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม อาการเจ็บของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความไวต่อความเจ็บปวดของแต่ละบุคคล รวมถึงปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีด หากกังวลเรื่องความเจ็บ สามารถแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนฉีดได้ แพทย์อาจฉีดยาชาให้มากขึ้น หรือใช้เทคนิคการฉีดที่อ่อนโยนขึ้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เห็นผลทันทีเลยไหม ?
ฉีดฟิลเลอร์ปากจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด แต่อาจมีอาการบวมเล็กน้อย ซึ่งจะค่อย ๆ หายไปเองใน 3-7 วัน และฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่ พร้อมเห็นผลลัพธ์ชัดเจนใน 2-3 สัปดาห์
ฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้กี่เดือน ?
ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถอยู่ได้นาน 6-18 เดือน หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนานขึ้น ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ด้วยยี่ห้อและรุ่นที่มีคุณภาพสูง กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ รวมถึงดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างเคร่งครัด
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
- งดทาลิปสติก และงดสูบบุหรี่ เป็นเวลา 12 ชั่วโมงแรก
- งดการใช้หลอดดูดน้ำ และรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มร้อน ๆ เป็นเวลา 24 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
- งดการดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส บีบ ดึง หรือขยี้บริเวณที่ฉีด
- งดออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก เป็นเวลา 24 ชั่วโมงหลังฉีด
- ทานยาแก้ปวดตามแพทย์สั่ง หากมีอาการปวดหรือบวม
หากฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร ? ควรแก้ไขอย่างไร ?
3 สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน
- แพทย์ขาดประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ปาก ฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง ผิดชั้นผิว ทำให้ฟิลเลอร์อุดตันและเกิดเป็นก้อนได้
- ใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจมีการปนเปื้อนหรือสารอันตราย ซึ่งอาจทำให้ฟิลเลอร์เกิดการอักเสบและเกิดเป็นก้อนได้
- การอักเสบติดเชื้อ ฟิลเลอร์อาจเกิดการอักเสบติดเชื้อได้ หากบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มีการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา จะทำให้ฟิลเลอร์เกิดเป็นก้อนและมีอาการบวม แดง ปวด
วิธีแก้ไขฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน
- ฉีดสลายฟิลเลอร์ แพทย์สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยตัวยาไฮยาลูโรนิเดส ซึ่งเป็นสารที่ย่อยสลายฟิลเลอร์ได้ ใช้เวลาประมาณ 1-3 วัน ฟิลเลอร์จะถูกย่อยสลายจนหมดและหายไปจากบริเวณที่ฉีด
- รอให้ฟิลเลอร์สลายไปเอง ในกรณีของฟิลเลอร์ที่อุดตันเล็กน้อย อาจใช้เวลาประมาณ 6-12 เดือน ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ ยุบตัวและหายไปจากบริเวณที่ฉีด
- การเลือกฉีดฟิลเลอร์ปากกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีทักษะในการฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างถูกต้อง และใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ปาก ถือเป็นวิธีป้องกันการฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อนในเบื้องต้น
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก เลือกคลินิกอย่างไร ?
- เลือกคลินิกที่ได้รับการอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
- เลือกคลินิกที่แพทย์ผู้ฉีดฟิลเลอร์มีประสบการณ์และใช้เทคนิคในการฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างถูกต้อง
- เลือกคลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้ ได้รับการรับรองจาก อย.
- เลือกคลินิกที่มีริวิวฉีดฟิลเลอร์ปากจากผู้ใช้บริการจริงในคลินิกนั้น ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ
- เลือกคลินิกที่สามารถปรึกษาแพทย์ได้ก่อนฉีด เพื่อพูดคุยถึงความต้องการและผลลัพธ์ที่ต้องการ
สรุป
สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีการเสริมความงามเพื่อปรับเปลี่ยนลุคให้ดูสวยขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ปากถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ก่อนตัดสินใจฉีด เพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการ
