ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ความสวยงามเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ และการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใสมากขึ้น หากเพื่อน ๆ คนไหนกำลังคิดว่าจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่ต้องกลัวเลยค่ะ มาทำความรู้จักกับข้อดีและข้อเสีย รวมถึง 8 ข้อที่ควรรู้ ก่อนที่จะตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้อย่างมั่นใจ! Thaibestbeauty สรุปข้อมูลมาให้แล้ว
ฟิลเลอร์ใต้ตา (Under eyes filler) คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ใต้ตา (Under eyes filler) คือ การใช้สารเติมเต็มที่ชื่อว่า ไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ฉีดเข้าไปใต้ตาเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ บริเวณใต้ตา เช่น ร่องใต้ตา ตาลึก ตาโหล ใต้ตาคล้ำ ริ้วรอยใต้ตา และถุงใต้ตา เพื่อช่วยให้ผิวใต้ตากลับมาดูสดใส เต่งตึง และอ่อนเยาว์ขึ้น รวมถึงชะลอการเกิดริ้วรอยและร่องใต้ตาในอนาคต
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่ออะไร ?
วัตถุประสงค์ที่หลาย ๆ คนต้องการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีดังนี้
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อแก้ปัญหาตาลึก ตาโหล
ตาลึก ตาโหล เป็นปัญหาที่เกิดจากการสูญเสียไขมันใต้ตา การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถช่วยเติมเต็มไขมันใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น
ขอบคุณภาพรีวิวจาก V Square Clinic
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อแก้ปัญหาถุงใต้ตา
ถุงใต้ตา คือถุงไขมันใต้ตาที่หย่อนคล้อยลง เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การเสื่อมของสภาพผิว กรรมพันธ์ พฤติกรรมการใช้ชีวิต เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกใต้ตาจะยุบตัวลงทำให้เนื้อเยื่อที่พยุงถุงไขมันบริเวณใต้ตาหย่อน การฉีดฟิลเลอร์จะเข้าไปทดแทนส่วนที่ยุบตัวลง ทำให้ถุงใต้ตายกกระชับขึ้น ถุงใต้ตาลดลง ผิวใต้ตาเรียบเนียนขึ้น
ขอบคุณภาพรีวิวจาก V Square Clinic
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ
ใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ เป็นปัญหาที่เกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น กรรมพันธุ์ พักผ่อนไม่เพียงพอ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถช่วยทำให้รอยคล้ำใต้ตาดูจางลงได้
ขอบคุณภาพรีวิวจาก V Square Clinic
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อแก้ปัญหาร่องใต้ตาลึก
ร่องใต้ตา เป็นปัญหาที่เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถช่วยเติมเต็มร่องใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
ขอบคุณภาพรีวิวจาก V Square Clinic
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา
ริ้วรอยใต้ตา เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยเช่นกัน เกิดจากความหย่อนคล้อยของผิวหนังใต้ตา ผิวสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวบางลง ขาดความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอยได้ง่าย การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถช่วยเติมเต็มร่องใต้ตา ทำให้ริ้วรอยใต้ตาดูลดลง
ขอบคุณภาพรีวิวจาก V Square Clinic
รู้จักข้อดี-ข้อเสีย ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ข้อดี ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา | ข้อเสีย ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา |
---|---|
✔ เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด เห็นการปลี่ยนแปลงหลังทำทันที ว่าใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น ✔ ใช้เวลาในการทำไม่นาน ใช้เวลาในการฉีดเพียงประมาณ 30 นาที ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น ✔ ปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นสารเติมเต็ม HA ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย ✔ แก้ไขปัญหาใต้ตาได้อย่างตรงจุด แพทย์มากประสบการณ์จะประเมินสภาพใต้ตา เลือกชนิดและปริมาณของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการ ✔ อยู่ได้นาน ประมาณ 6-24 เดือน หากเลือกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อที่มีคุณภาพดี และดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด ✔ สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้างฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid เป็นสารธรรมชาติที่พบได้ในร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว เมื่อฉีดเข้าไปจะถูกย่อยสลายโดยเอนไซม์ในร่างกาย ไม่ทิ้งสารตกค้าง | – อาจเกิดอาการบวม หรือช้ำเล็กน้อยหลังฉีด ซึ่งจะหายไปเองภายใน 2-3 วัน – อาจเกิดก้อนหรือรอยนูนบริเวณที่ฉีดได้ หากทำกับแพทย์ที่ไม่เก่งพอ แต่สามารถแก้ไขได้โดยการฉีดสารละลายไฮยาลูโรนิก แอซิดเพื่อสลายฟิลเลอร์ – อาจต้องฉีดซ้ำทุก 6-12 เดือน เพื่อให้ผลลัพธ์คงอยู่ |
ระยะเวลาการเห็นผลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด แต่อาจมีอาการบวมเล็กน้อย ซึ่งจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 2-3 วัน และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนใน 2 สัปดาห์
โดยผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ใต้ตาที่เห็นได้ชัด ได้แก่
- ร่องลึกใต้ตาเต็มขึ้น
- รอยคล้ำใต้ตาลดลง
- ถุงใต้ตาลดลง
- ริ้วรอยใต้ตาจางลง
- ผิวใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น
- ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
คลิกอ่านเพิ่มเติม : ไขข้อข้องใจ ฉีดฟิลเลอร์ กี่วันเข้าที่ ? กี่วันเห็นผล ? และควรดูแลตัวเองอย่างไร ?
การคงอยู่ของผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการดูแลรักษาหลังฉีด หากดูแลรักษาเป็นอย่างดี จะช่วยให้ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานขึ้น
ซึ่งระยะเวลาของฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละยี่ห้อ มีดังนี้
- Juvederm Voluma 18 เดือน
- Juvederm Volite 8-12 เดือน
- Juvederm Volux 18-24 เดือน
- Restylane Defyne 18 เดือน
- Restylane Vital Light 6-12 เดือน
- Restylane Vital 12 เดือน
- Restylane Perlane lyft 12 เดือน
- Restylane Classic 12 เดือน
- Belotero Volume 18 เดือน
- Belotero Revive 6-9 เดือน
ความปลอดภัยของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยทั่วไปแล้ว ถือว่ามีความปลอดภัยสูง หากฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ผ่านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาหลายเคส รู้เทคนิคการฉีดไม่ให้โดนเส้นเลือด และเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.)
ส่วนกรณีฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วอันตราย ไม่ปลอดภัย ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น เนื้อตายหรือตาบอด มักเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม หรือฉีดโดยหมอกระเป๋า หมอเถื่อน เป็นส่วนใหญ่
ดังนั้นก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ไหนดี จึงควรเลือกฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่เชื่อถือได้ และเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. เท่านั้น
รู้จักฟิลเลอร์แท้-ฟิลเลอร์ปลอม ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์แท้
ฟิลเลอร์แท้ คือ ฟิลเลอร์ที่ผลิตขึ้นตามมาตรฐานความปลอดภัยและได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประเทศไทย ฟิลเลอร์แท้ส่วนใหญ่ทำจากกรดไฮยาลูรอน (Hyaluronic acid) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่พบได้ในร่างกายมนุษย์ มีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำได้ดี จึงสามารถเติมเต็มร่องลึกบนใบหน้า ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวย และลดริ้วรอยได้
สำหรับยี่ห้อฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านอย. และนิยมนำมาฉีดบริเวณใต้ตา ได้แก่
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm จากอเมริกา รุ่น Voluma, Volite, Volux
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane จากสวีเดน รุ่น Defyne, Vital Light, Vital, Perlane lyft, Classic
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero จากสวิตเซอร์แลนด์ รุ่น Volume, Revive
ฟิลเลอร์ปลอม
ฟิลเลอร์ปลอม คือ ฟิลเลอร์ที่ผลิตขึ้นอย่างไม่ถูกต้อง เป็นของลอกเลียนแบบของแท้ ใช้สารที่อันตรายเป็นส่วนประกอบในฟิลเลอร์ เช่น พาราฟิน ไบโอพลาสติก ซิลิโคนเหลว ฟิลเลอร์ปลอมเมื่อฉีดเข้าไปแล้วอาจเกิดอันตรายได้ เช่น การอักเสบ ฟิลเลอร์เป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล รวมถึงฉีดไปนาน ๆ แล้วฟิลเลอร์อาจเน่าทำให้ใบหน้าเสียโฉมได้ สำหรับการรักษาทำได้แค่เพียงขูดออกหรือผ่าตัดเท่านั้น
วิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้-ฟิลเลอร์ปลอม
ฟิลเลอร์แท้และฟิลเลอร์ปลอมมีความแตกต่างที่สังเกตได้ ดังนี้
- ราคา ฟิลเลอร์แท้มีราคาสูงกว่าฟิลเลอร์ปลอม
- บรรจุภัณฑ์ ฟิลเลอร์แท้มีบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพดี สวยงาม เรียบร้อย ข้อมูลครบถ้วน ชัดเจน
- ความใส ฟิลเลอร์แท้มีความใสกว่าฟิลเลอร์ปลอม
- ความหนืด ฟิลเลอร์แท้มีความหนืดสม่ำเสมอ
- การฉีด ฟิลเลอร์แท้สามารถฉีดได้อย่างราบรื่น ไม่เจ็บ
- ผลลัพธ์ ฟิลเลอร์แท้ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและสวยงาม
ตัวอย่างการดูฟิลเลอร์แท้
ขอบคุณภาพจาก V Square Clinic
วิธีการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฉบับมือใหม่หัดฉีด
เลือกคลินิกได้มาตรฐานและขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง
- ได้รับอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลอย่างถูกต้อง
- มีใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
- มีสถานที่ตั้งที่ชัดเจน สะอาด ปลอดภัย
- มีอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัย
- บุคลากรภายในคลินิกน่าเชื่อถือและมีประสบการณ์
- มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง และถูกพูดถึงจากหลายช่องทาง
- แจ้งราคาและโปรโมชันชัดเจน สมเหตุสมผล
เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับแพทย์ที่มีประสบการณ์
- เป็นแพทย์จริง ตรวจสอบชื่อ-นามสกุลและเลขว.ได้ทางเว็บไซต์ของแพทยสภา
- มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยเฉพาะ
- ประเมินปัญหาและเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละบุคคลได้
- มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง แม่นยำ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดผลข้างเคียง
เลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ตรวจสอบได้
- ใช้ยี่ห้อฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศไทย
- มีการแกะกล่องฟิลเลอร์ให้เห็นชัดเจน และอนุญาตให้นำกล่องฟิลเลอร์กลับบ้านหรือถ่ายรูปไว้ได้
เคล็ดลับเพิ่มเติมในการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- สอบถามข้อมูลและขอคำแนะนำจากเพื่อนหรือคนรู้จักที่เคยฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง จะช่วยให้สามารถตัดสินใจเลือกคลินิกและแพทย์ได้ตรงกับความต้องการและงบประมาณ
- นัดปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาและวางแผนการรักษาร่วมกัน ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการและปลอดภัย
ข้อห้ามและการดูแล ก่อนฉีดฟิลเลอรใต้ตา
ข้อห้ามก่อนฉีดฟิลเลอรใต้ตา
ใครที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบ้าง ?
- คนที่มีผิวอักเสบติดเชื้อ มีสิวอักเสบ หรือเป็นผื่นบริเวณใต้ตา ควรรักษาให้หายก่อน
- คนที่มีประวัติแพ้ฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid
- คนที่มีประวิติแพ้ยาชา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน เพื่อให้แพทย์เลือกฟิลเลอร์ชนิดที่ไม่มียาชาผสม
- คนที่มีภาวะเลือดไหลไม่หยุด (ฺBleeding Disorder) ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์
- คนที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
วิธีเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- งดยาบางชนิด ที่อาจทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์ก่อนฉีดฟิลเลอร์
- งดกิจกรรมที่อาจทำให้หน้าแดงหรือหน้าบวม เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดดจัด
- งดการโกน แวกซ์ ดึงขน หรือผลัดเซลล์ผิว ทำทรีตเม้นต์ และเลเซอร์ต่าง ๆ อย่างน้อย 3 วัน
- งดดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
ข้อห้ามและการดูแล หลังฉีดฟิลเลอรใต้ตา
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอรใต้ตา
- ห้ามขยี้ตาหรือกดบริเวณที่ฉีด
- ห้ามนวดบริเวณที่ฉีด
- ห้ามออกกำลังกายหนัก ๆ
- ห้ามซาวน่าหรือทำกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง
- ห้ามดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- นอนหัวสูงกว่าหน้าอกอย่างน้อย 2-3 คืนแรก เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่
- ดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำได้ดีและอยู่ได้นานขึ้น
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจทำให้หน้าแดงหรือหน้าบวม เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดดจัด
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ 1 คืน
- รับประทานยาที่แพทย์สั่งตามคำแนะนำ
นอกจากนี้ หากมีอาการผิดปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เช่น มีอาการบวมมาก มีอาการเจ็บปวด มีอาการแพ้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
ค่าใช้จ่ายในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ราคา ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 10,000-20,000 บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ ประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำหัตถการ สถานที่ทำหัตถการ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคลินิก ดังนั้น ควรศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบราคาจากหลายแห่งก่อนตัดสินใจเลือกคลินิก
สรุปเรื่องฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ทั้งหมดนี้คือ 8 ข้อที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยรวมแล้วฟิลเลอร์ใต้ตาถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาใต้ตาให้ใบหน้าของเพื่อน ๆ ดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น หากเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ ทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ตัวยาฟิลเลอร์แท้ ก็ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ